โรบิน พาดิลลา (Robin Padilla) ชื่อมุสลิม อับดุล อาซิซ (Abdul Aziz) ดาราของฟิลิปปินส์ หันมารับอิสลามช่วงกลางทศวรรษ 1990
Robin Padilla ดาราดังฟิลิปปินส์ สู่การเข้ารับอิสลาม
โรบิน พาดิลลา (Robin Padilla) ชื่อมุสลิม อับดุล อาซิซ (Abdul Aziz) ดาราของฟิลิปปินส์ หันมารับอิสลามช่วงกลางทศวรรษ 1990 จากนั้นเป็นต้นมาเขากลายเป็นทูตแห่งอิสลามในฟิลิปปินส์และอุทิศตัวเองให้กับงานการกุศลเพื่อช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมตลอด โรบินก่อตั้งโรงเรียนอิสลามด้วยทุนของตัวเอง เป็นผู้นำในการรณรงค์ต่อต้านโรคมาเลเรีย และหาทุนสร้างสุสานมุสลิม
โรบิน พาดิลลา ได้บรรยายเรื่องอิสลามที่เจดดาห์ ให้กับชาวฟิลิปปินส์ 400 คน มีคนหนึ่งรับอิสลามในที่ประชุมนั้น หลังจากผมรับอิสลาม ผมให้ความรู้เรื่องอิสลามกับคนจำนวนมาก ในจำนวนนั้นมีทั้งญาติ เพื่อนฝูง และแฟนๆภาพยนตร์ อัล-ฮัมดุลิลลาฮ์ ที่ประทับอย่างยิ่งคือการรับอิสลามของอาผมเอง เขาเป็นคนที่เคยสังหารมุสลิมในมินดาเนาจำนวนมาก เมื่อผมคุยกับเขาเกี่ยวกับอิสลาม เขาถึงกับร้องให้และเข้ารับอิสลาม ผมมีความสุขที่ได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องอิสลามกับคนอื่น ผมต้องการที่จะเป็นดะอีย์ (นักดะอฺวะฮ์) เต็มเวลาในแต่ละวัน
โรบิน พาดิลลา ต้องการเผยแผ่อิสลามอย่างแท้จริง ผมมีวิธีการดะอฺวะฮ์ (การเชิญชวนผู้อื่นมาสู่อิสลาม) สำหรับผมแล้วอิสลามเป็นศาสนาที่ง่าย อัลลอฮ์ได้กล่าวเรื่องนี้ไว้ในอัล-กุรอานเช่นกัน ผมต้องการเห็นลูกๆ เติบโตมาด้วยความรู้และค่านิยมแบบอิสลาม ด้วยการร่วมมือกับพี่น้องบางคน ผมได้ก่อตั้งมูลนิธิแสงแห่งสันติภาพ (Light of Peace Foundation) และตอนนี้ผมได้ก่อตั้งโรงเรียนอิสลามด้วยความช่วยเหลือจากยูซุฟ อิสลาม (Cat Stevens)
โรบิน พาดิลลา เกิดมาเป็นชาว (คริสต์) คาทอลิค ผมได้เปลี่ยนไปถือ (ศาสนาคริสต์แนวทาง) พยานพระยะโฮวา ตอนอายุ 12 ปี การเป็นชาวคอทอลิคหมายถึงเราต้องไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ เพื่อพบปะกันแต่ก็ไม่ได้สนใจต่อคัมภีร์ไบเบิลเลย ส่วนการเป็นพยานพระยะโฮวานั้น ผมต้องศึกษาคัมภีร์ไบเบิลสองครั้งต่อสัปดาห์ และถือโอกาสนี้เผยแผ่มันด้วย ตอนอายุ 14 ปี ผมก็ได้ค้นพบตัวเองในโลกภาพยนตร์ จึงเข้ารับการฝึกฝนด้านนี้สองปี จากนั้นผมก็เข้าสู่วงการแสดงในบทผู้ร้าย เพราะผมไม่ค่อยหล่อเหลาเท่าใดนัก เมื่ออายุ 18 ปี ผมก็ได้เล่นในบทพระเอก มีภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นที่ผมแสดงเกือบ 20 เรื่อง
โรบิน พาดิลลา ตอนอายุได้ 25 ปี ผมต้องติดคุก ผมถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 12 ถึง 21 ปี ด้วยข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ขณะที่ผมอยู่ในคุกผมได้หันกลับไปหาพระเจ้าอีกครั้ง และนั่นทำให้ผมได้พบกับอิสลาม ผมเคยสูญเสียความเป็นตัวเองไปให้กับวงการบันเทิง โดยหมกหมุ่นกับการยิงปืน เหล้า และยาเสพติด สื่อมวลชนตั้งฉายาให้กับผมว่า 'Bad Boy Robin' ตอนนั้นผมรู้สึกว่าผมไม่ใช่คน ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพระเจ้า แต่เมื่ออยู่ในคุก ผมก็กลับมาเป็นคนอีกครั้งหนึ่ง ในคุกนี้เองที่ทำให้ผมได้พบกับศาสนาต่างๆ ทุกรูปแบบ ตอนนั้นผมยังคงเป็นพยานพระยะโฮวา ผมอ่านไบเบิลอีกครั้งและรู้สึกประหลาดใจในวิธีการเข้าถึงอาณาจักรของพระเจ้า ไบเบิลกล่าวว่า ท่านต้องเคารพบูชาพระเจ้าที่แท้จริงเพียงองค์เดียวด้วยดวงใจและวิญญาณของท่าน ผมรู้ว่าไบเบิลเป็นพระคำของพระเจ้าและผมรับรู้ถึงแนวคิดเกี่ยวกับพระเจ้าองค์เดียวและเยซูเป็นเพียงผู้ประกาศสาส์นของพระเจ้าเท่านั้น แต่การอธิบายของไบเบิลเกี่ยวกับเยซูทำให้ผมสับสน เพราะบางครั้งเยซูเป็นพระเจ้าแต่บางครั้งก็ไม่ใช่ ผมจึงคบหากับทุกคนเพื่อค้นหาพระเจ้าที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว
โรบิน พาดิลลา ชีวิตในคุกอีก 7 เดือนต่อมา ผมได้พบกับชาวซูดานคนหนึ่งชื่อว่า มุฮัมมัด ฟูอาด กำลังนมาซอยู่ในรูปแบบคล้ายกับที่ผมทำ คือการกราบลงบนพื้น ผมเองวิงวอนต่อพระเจ้าด้วยวิธีเดียวกันนี้ เพราะมันมีปรากฏอยู่ในไบเบิล ผมจึงถามเขาถึงศาสนาที่เขานับถืออยู่ เขาบอกว่า "ผมเป็นมุสลิม"
โรบิน พาดิลลา รู้สึกกลัวขึ้นมา เพราะผมเคยรู้ว่ามุสลิมคือ "ผู้ก่อการร้าย" ในสมัยนั้นมีมุสลิมบางคนได้ขู่ว่าจะสังหารพระสันตปาปา ผมถามเขาต่อถึงสาเหตุที่เขาต้องติดคุก เขาบอกผมว่าเขาถูกสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้าย เขาบอกอีกว่า เขาถูกตำรวจใส่ร้าย เราได้สนทนากันอย่างมากมาย ผมสามารถมองเห็นความเป็นคนดีปรากฏอยู่ในดวงตาของเขาได้ เขาเชิญผมไปฟังกลุ่มพูดคุยมุสลิมและเข้าร่วมชุมนุมนักโทษมุสลิมทุกๆ เช้าวันศุกร์
ในเวลานั้น โรบิน พาดิลลา ได้รับมอบหมายให้ดูแลนักโทษจากเวลาเที่ยงคืนถึงแปดโมงเช้า ในวันศุกร์ต่อมา หลังจากผมมีเวลานอนเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น มุฮัมมัด ฟูอาดก็ปลุกผมไปร่วมการชุมนุม ที่นั่นมีคนที่หันมารับอิสลามคนหนึ่งชื่อว่า อิลยาส เขาได้พูดเกี่ยวกับความจริงที่ว่า พระเจ้ามีเพียงหนึ่งเดียว ผมบอกเขาว่าผมก็มีความคิดเช่นดียวกัน วันศุกร์ต่อมาก็มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับความจริงที่ว่า เยซูนั้นเป็นเพียงผู้ประกาศสาส์นเท่านั้น ผมรู้สึกตื่นเต้นและผมคิดว่าผมได้ผมกับศาสนาที่ถูกต้องแล้ว ผมไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ ผมคิดถึงเรื่องนี้ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อมีการพบปะกันครั้งที่สาม ผมจึงประกาศรับอิสลามในเดือนกันยายน ปีค.ศ 1995
ในเวลานั้น ผมมีเพื่อนสาวและมีลูกด้วยกัน เมื่อผมเข้ารับอิสลาม เราไม่เจอกันเป็นเวลา 3 เดือน แต่อัล-ฮัมดุลิลลาฮ์ เธอได้พูดว่า "วันหนึ่งเราจะแต่งงานกันแบบอิสลาม" สองเดือนต่อมา เธอก็ได้รับอิสลาม เรามีลูกสาวด้วยกัน 3 คน อายุ 9 ปี, 7 ปี, และ 5 ปี ตามลำดับ และลูกชายอีกหนึ่งคนในไม่ช้านี้
โรบิน พาดิลลา นับจากวันที่ผมได้เข้ารับอิสลาม ก็ปรากฏข่าวคราวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ในชั้นแรกพวกเขาก็ตัดสินตัวผม โดยพวกเขากล่าวว่า ผมรับอิสลามเพราะต้องการมีภรรยาหลายคน แต่แท้จริงแล้วก่อนหน้านี้ผมสามารถมีภรรยาได้ไม่จำกัดจำนวน แต่หลังจากผมเป็นมุสลิมผมถูกจำกัดให้มีภรรยาแค่ไม่เกินสี่คนและต้องปฏิบัติกับพวกเธอในฐานะภรรยาและต้องรับผิดชอบด้วย แน่นอน ! ผมได้ "กลายเป็น" ผู้ก่อการร้ายไปแล้วด้วย! อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้สัมภาษณ์และพูดคุยถึงลักษณะที่ผมได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นคนใหม่ การที่ผมรณรงค์ต่อสู้กับยาเสพติดในเรือนจำ ผมได้ช่วยสร้างศูนย์บำบัดยาเสพติดในเรือนจำเพื่อบำบัดนักโทษ ช่วยจับผู้ดูแลนักโทษที่เกี่ยวข้องกับการค้าขายยาเสพติด ผมได้เลื่อนไปอยู่อาคารดูแลความปลอดภัยระดับสูงสุด ในเวลานั้นผมคิดว่าผมต้องเป็น "คุณปู่" เมี่อผมออกจากคุก แต่ผมก็ฝันถึงอิสรภาพ ผมรู้ว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงอำนาจเหนือทุกสิ่ง ผมอ่านอัล-กุรอานอย่างหนัก ไม่ว่าซูเราะฮ์ไหนก็มีข้อแนะนำให้กับผม ในที่สุดผมก็ได้รับการปล่อยตัวเนื่องจากความประพฤติดีหลังจากอยู่ในคุกได้ 3 ปี
โรบิน พาดิลลา ได้ทำฮัจญ์ในปี 1999 ร่วมไปกับกลุ่มของแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติโมโร Moro National Liberation Front (MNLF) พวกเราเป็นแขกของกษัตริย์ ดังนั้นการทำฮัจญ์ของเราจึงสะดวกเป็นอย่างมาก เมื่อผมเฝ้ามองมุสลิมกำลังฏอวาฟรอบๆกะอฺบะฮ์จากข้างบนด้วยความพร้อมเพรียงกัน ผมรู้สึกทึ่งต่อผู้คนหลากหลายสีผิวถูกเชื่อมเข้ากันด้วยภราดรภาพแห่งอิสลาม ผมคิดว่าถ้าเราถูกเชื่อมกันในเรื่องอื่นๆ ทุกๆ ด้าน เราสามารถปกครองโลกนี้ได้เลย อินชาอัลลอฮ์
วันที่ผมถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ เป็นวันอีด อัฎฮา ผมได้เห็นกะอฺบะฮฺนี้ในวันนั้น ผมร้องให้เนื่องจากผมนึกถึงความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตของผมจากการที่ผมถูกตัดสินให้ไปอยู่ในคุก
โรบิน พาดิลลา ต้องการเผยแผ่อิสลามอย่างแท้จริง ผมมีวิธีการดะอฺวะฮ์ (การเชิญชวนผู้อื่นมาสู่อิสลาม) สำหรับผมแล้วอิสลามเป็นศาสนาที่ง่าย อัลลอฮ์ได้กล่าวเรื่องนี้ไว้ในอัล-กุรอานเช่นกัน ผมต้องการเห็นลูกๆ เติบโตมาด้วยความรู้และค่านิยมแบบอิสลาม ด้วยการร่วมมือกับพี่น้องบางคน ผมได้ก่อตั้งมูลนิธิแสงแห่งสันติภาพ (Light of Peace Foundation) และตอนนี้ผมกำลังทำงานเพื่อก่อตั้งโรงเรียนอิสลามด้วยความช่วยเหลือจากยูซุฟ อิสลาม (Cat Stevens)
ตอนไปเจดดาห์ ผมได้บรรยายเรื่องอิสลามให้กับชาวฟิลิปปินส์ 400 คน มีคนหนึ่งรับอิสลามในที่ประชุมนั้น หลังจากผมรับอิสลาม ผมให้ความรู้เรื่องอิสลามกับคนจำนวนมาก ในจำนวนนั้นมีทั้งญาติ เพื่อนฝูง และแฟนๆภาพยนตร์ อัล-ฮัมดุลิลลาฮ์ ที่ประทับอย่างยิ่งคือการรับอิสลามของอาผมเอง เขาเป็นคนที่เคยสังหารมุสลิมในมินดาเนาจำนวนมาก เมื่อผมคุยกับเขาเกี่ยวกับอิสลาม เขาถึงกับร้องให้และเข้ารับอิสลาม ผมมีความสุขที่ได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องอิสลามกับคนอื่น ผมต้องการที่จะเป็นดะอีย์ (นักดะอฺวะฮ์) เต็มเวลาในแต่ละวัน
โรบิน พาดิลลา เผยต่ออีกว่า มันเป็นเรื่องลำบากสำหรับผมที่จะแสดงภาพยนตร์ต่อไป แต่ผมได้ทำสัญญาไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติให้ครบตามกำหนด ผมต้องอธิบายให้พวกเขาทราบว่ามีบางสิ่งที่ผมทำไม่ได้ มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพวกเขา แต่เนื่องจากผมเป็นมุสลิม จะต้องไม่มีฉากจูบ ในเรื่องนี้พวกเขายอมผม อินชาอัลลอฮ์ เมื่อเวลานั้นมาถึงผมจะออกจากโลกภาพยนตร์
ที่มา: www.newmuslimthailand.com