อ้างชื่อบีอาร์เอ็น โต้ อปพสผ่านโซเชียล ยืนยันไม่ปฏิบัติการในพื้นที่อื่นนอกจากจะถูกสร้างความเสียหายจนถึงขีดสุด แสดงความเสียใจที่การต่อสู้เพื่อทวงคืนแผ่นดิน
อ้างชื่อ BRN โต้กลุ่มปกป้องพุทธศาสนา ยันไม่ปฏิบัติการนอกดินแดน
อ้างชื่อบีอาร์เอ็น โต้ อปพส.ผ่านโซเชียล ยืนยันไม่ปฏิบัติการในพื้นที่อื่นนอกจากจะถูกสร้างความเสียหายจนถึงขีดสุด แสดงความเสียใจที่การต่อสู้เพื่อทวงคืนแผ่นดิน “ปาตานี” ถูกกลุ่มไทยพุทธนำไปใส่ร้ายป้ายสี ชี้รัฐไทยสร้างข่าวกลบการไร้สมรรถภาพการบริหารประเทศ เหตุเรื่องทวงคืนปาตานีได้ใจมวลชน
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. จากเพจ “BRN Barisan Revolusi National” อ้างถึงองค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ (อปพส.) ยื่นหนังสือต่อนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ในระหว่างพิธีเปิดมัสยิดกลาง จ.มุกดาหาร โดยระบุในหนังสือดังกล่าวว่า..
บีอาร์เอ็น กำลังขยายพื้นที่การก่อความไม่สงบจากจังหวัดชายแดนภาคใต้มาที่ภาคอีสาน ภาคเหนือ และทุกจังหวัดผ่านการสร้างมัสยิดให้มากที่สุดว่า ตามหลักการสงครามในหลักศาสนา เรามิอาจปฏิบัติการใดๆ ได้ในพื้นที่หรือดินแดนของผู้อื่น นอกเหนือจาก 4 จังหวัด 4 อำเภอชายแดนใต้ แผ่นดินที่ถูกยึดครองโดยกาเฟร ยกเว้นเมื่อกองทัพสยามสร้างความเสียหายและฟิตนะห์ต่อประชาชน หรือกองกำลังของเราจนถึงขีดสุด
“ขอแสดงความเสียใจต่อชาวมุสลิมสยามไทยทุกท่าน ที่การต่อสู้เพื่อทวงคืนดินแดนปาตานีของกองกำลัง BRN จะนำมาซึ่งการใส่ร้ายป้ายสีจากชาวพุทธสยามไทยอย่างกว้างขวาง และแน่แท้ต้องเกิดคำถาม แล้วทำไมถึงปรากฏข่าวสารที่ผ่านมาว่ามีการปฏิบัติการดังกล่าว คำตอบคือ การปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการปฏิบัติการเพื่อหวังผลทางมวลชนของรัฐสยามไทยเอง เพื่อกลบเกลื่อนการไร้สมรรถภาพการบริหารประเทศ ซึ่งไม่มีเรื่องใดที่จะได้มวลชนเท่ากระแสการทวงคืนดินแดนปาตานี”
เพจดังกล่าวยังระบุด้วยว่า การที่คณะพูดคุยสันติภาพ คณะใหม่ พยายามแถลงข่าวเพื่อเรียกร้องเชิงกดดันให้เราในฐานะกองกำลังหลักที่ไม่เคยท้อถอยในการต่อสู้กับรัฐบาลสยามไทยผู้ปล้นชิง แน่นอนนั่นเป็นเพียงชั้นเชิงทางการทูตที่สังคมโลกรู้จักลักษณะนิสัยของสยามไทยดี ความพยายามยืดระยะเวลาในการดำเนินการปฏิบัติงานมวลชนของสยามไทย เป็นความพยายามที่เรารู้ดีและรู้ซึ่งต่อการกระทำดังกล่าวมาตั้งแต่ตน
เรายังคงยืนยันว่า การเจรจาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อรัฐสยามไทยต้องเผยถึงความจริงใจที่จะเข้ากระบวนการดังกล่าวอย่างแท้จริง ประชาชนชาวสยามไทยขอจงใช้วิจารณญาณในการวิเคราะห์แยกแยะข้อมูลและเหตุผลทุกๆ การปฏิบัติการที่เกิดขึ้น ว่าผู้ใดกันแน่เป็นผู้กระทำ
ที่มา:mgronline.com