ถึงแม้โสเภณีจะเป็นอาชีพที่ถูกกฎหมายในบังคลาเทศ ซึ่งมีประชากรเกือบทั้งหมดเป็นมุสลิม แต่เมื่อพวกนางเสียชีวิต ศพของพวกนางถูกปฏิเสธการประกอบพิธีแบบอิสลาม
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ชีวิตรันทด! หญิงขายบริการต่อสู้เพื่อแม่ ทำพิธีศพแบบอิสลาม
ถึงแม้โสเภณีจะเป็นอาชีพที่ถูกกฎหมายในบังคลาเทศ ซึ่งมีประชากรเกือบทั้งหมดเป็นมุสลิม โดยมีสถานบริการที่เป็นโรงแรมสำหรับหญิงเหล่านี้ถึง 12 แห่ง แต่เมื่อพวกนางเสียชีวิต ศพของพวกนางถูกปฏิเสธการประกอบพิธีแบบอิสลาม โดยมักจะถูกฝังกลบไปเฉย ๆ หรือไม่ก็นำไปโยนทิ้งแม่น้ำ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฮามิดา เบกุม วัย 65 ปี ที่ประกอบอาชีพโสเภณีที่หมู่บ้านเดาลัทเดีย มาตลอดชีวิต ได้ตายลง และศพของเธอได้รับการประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีผู้มาละหมาดให้เธอราว 200 คน
ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ศพของหญิงโสเภณีได้รับการประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง กลุ่มหญิงขายบริการที่ไปชักชวนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยกันเจรจาขอให้ผู้นำทางศาสนาในท้องถิ่นจัดละหมาดญะนาซะฮ์ให้กับมัยยิตของเธอ
อะชีกูร เราะฮ์มาน หัวหน้าตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ควบคุมในการเจรจา กล่าวกับสื่อว่า ในตอนแรกอิหม่ามก็รู้สึกกระอักกระอ่วน และไม่เต็มใจจะทำพิธีให้ เขายังกล่าวว่า เขาได้ตั้งคำถามกับผู้นำศาสนาว่า มีกฎข้อบังคับใดในศาสนาอิสลาม ที่ห้ามคนมาร่วมละหมาดญะนาซะฮ์ ให้กับมัยยิตของหญิงที่เป็นโสเภณีหรือไม่ “แต่ผู้นำศาสนาก็ไม่ได้ให้คำตอบใดๆ”
นางลักษมี ลูกสาววัย 35 ปี ของนางฮามิดา ซึ่งก็เป็นหญิงโสเภณีเหมือนกัน เป็นผู้ริเริ่มการรณรงค์เพื่อให้มีการจัดละหมาดให้กับมารดาของนาง โดยมี นายมุกุล ซี้ค ลูกชายคนหนึ่งของนางฮามิดา ร่วมละหมาดขอพรให้แม่ของเขาด้วย
ลักษมีกล่าวด้วยความซาบซึ้งว่า นางไม่เคยคาดฝันมาก่อนเลยว่า แม่จะได้รับเกียรติในพิธีศพซึ่งมีผู้มาขอพรให้นางกว่า 200 คน และว่า “แม่ของฉันได้รับการปฏิบัติต่อเท่าเทียมกับการเป็นมนุษย์คนหนึ่งแล้ว” และเธอยังคาดหวังต่อไปอีกว่า ต่อแต่นี้ไปหญิงโสเภณีทุกคนที่ทำงานที่นี่ จะได้รับการละหมาดญะนาซะฮ์เมื่อเสียชีวิต “เช่นเดียวกับที่แม่ของฉันได้รับ”
หัวหน้าตำรวจเราะฮ์มาน กล่าวว่า “มันเป็นภาพแห่งประวัติศาสตร์ ที่ผู้คนหลายร้อยคนรอคอยจนดึกดื่นเพื่อจะได้ร่วมละหมาดญะนาซะฮ์ ดวงตาของหญิงโสเภณีที่มาร่วมละหมาดเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความปลื้มปิติที่เอ่อล้นดวงตา”
ที่มา: www.standard.co.uk