ประสบการณ์จากนักโทษคดียาเสพติด ในเรือนจำกรุงเทพฯ Martin Garnett เล่าถึงการที่เขาหันมาเข้ารับอิสลาม อัลฮัมดุลลิลาห์
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: Martin Garnett นักโทษเรือนจำกรุงเทพฯ หันเข้ารับอิสลาม
ประสบการณ์จากนักโทษคดียาเสพติด ในเรือนจำกรุงเทพฯ Martin Garnett เล่าถึงการที่เขาหันมาเข้ารับอิสลาม อัลฮัมดุลลิลาห์....
มาร์ติน การ์เนทท์ (Martin Garnett) หรือชื่อในปัจจุบัน คือ “อามีน มุบารัค” เป็นชาวออสเตรเลีย เขาถูกทางการสหรัฐฯ แจ้งจับในข้อหาค้ายาเสพติด ถูกจับและติดคุกในประเทศไทย ตั้งแต่ ปี 2001 – 2004 เขาเล่าว่า เขาเคยถูกนักโทษด้วยกันเองพยายามฆ่า แต่หลังจากที่เขาผูกมิตรกับนักโทษขาใหญ่ได้เขาก็หลุดพ้นจากความหวาดระแวงนั้น
มาร์ตินเล่าว่า หลังจากความล้มเหลวที่เขาไม่ตาย เขาถูกกลั่นแกล้งโดยถูกส่งตัวจากคุกที่กรุงเทพฯ ไปคุมขังที่คุกคลองไผ่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งสภาพที่นั่นแย่ ยิ่งกว่าแย่ เขาอยู่ที่นั่น 1 ปี และพยายามติดต่อ เจรจา ชักชวน หลบหลีก ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ออกมาจากที่นั่น จนในที่สุดความพยายามก็ประสบความสำเร็จ เขาถูกส่งตัวกลับมาคุมขังที่กรุงเทพฯ
เขาติดคุกในประเทศไทยจนถึงปี 2004 ซึ่งสหรัฐอเมริกา สามารถแจ้งให้ทางการไทยส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ตลอดเวลา แต่ทางสหรัฐฯ ก็ทำลืม ๆ เสีย เพราะมันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร เขาคิดว่า ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสร้างความสนใจ เขาจึงตัดสินใจปฏิบัติการ “อดอาหารประท้วง”
หลังอดอาหารมาได้กว่า 1 สัปดาห์ จิตใจเขาเริ่มล่องลอย ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่รู้สึกร้อน-หนาว เขาเริ่มทบทวนถึงชีวิตที่ผ่านมา 36 ปี และได้พบในที่สุดว่า สิ่งเลวทรามต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเขา ล้วนแล้วแต่มีสาเหตุมาจากตัวเขาเองทั้งสิ้น
นอกห้องขังของเขาที่กรุงเทพฯ ขณะเขาอดอาหารประท้วง เขาเห็นชายชาวปากีสถาน ชื่อ “ฮาบิ๊บ” กำลังละหมาดบ่าย หลังละหมาดเสร็จ ฮาบิ๊บ นั่งอยู่หน้าห้องที่ขังเขาไว้เป็นชั่วโมง ฮาบิ๊บพูดอังกฤษไม่ได้ แต่เขาพยายามเรียน 1 ประโยค เพื่อนำมาพูดกับเขา ประโยคนั้นคือ “คุณไม่มีสิทธิ์ในการทำร้ายตัวเองเช่นนี้” มาร์ตินรู้สึกรำคาญและคิดว่า “ทำไมเขาจะไม่มีสิทธิ์ฆ่าตัวตาย” แต่เขาไม่รู้สึกโกรธ เพราะฮาบิ๊บพูดด้วยนำเสียงสุภาพและไม่หยาบคาย แต่ด้วยน้ำเสียงที่มีความกังวล เจือปนด้วยความห่วงใย
ในห้องขังนี้มีเพียงหนังสือเล่มเดียว นั่นคือ อัล-กุรอานฉบับแปลภาษาอังกฤษ ด้วยความอยากรู้ว่า ทำไมมุสลิมจึงต้องละหมาด ทำให้เขาหยิบขึ้นมาอ่าน เขาเฝ้าดูพวกนักโทษมุสลิมละหมาด หลังจากนั้น มาร์ตินมักนั่งคุยกับพวกเขา
เขาคิดในตอนแรกว่า เส้นทางที่เขาเลือกอาจจะเป็นเส้นทางสายที่ลำบากที่สุด แต่น่าประหลาดใจ และแทบไม่คาดฝันมาก่อน ที่เขาพบว่า เขาไม่เคยพลาดเวลาละหมาดเลยสักครั้ง ยิ่งกว่านั้นเขายังค้นพบว่า อิสลามทำให้การมีชีวิตง่ายดายยิ่งขึ้น เขายังรู้สึกว่า พระเจ้าประทานพร ประทานทางนำและความเมตตาแก่เขา ที่ทำให้เขาได้มารู้จักอิสลาม มาเป็นมุสลิมที่น้อมยอมตนต่อพระประสงค์ของพระเจ้า เขาคิดว่า ความรู้สึกนี้เป็นความถูกต้อง เหมาะสมแล้วสำหรับเขา และเขาเข้าใจในทุกสิ่ง
มาร์ติน กลายมาเป็นมุสลิม และเลือกใช้ชื่อ “อามีน มุบารัค” แปลว่า ผู้ได้รับความไว้วางใจ และ ผู้ได้รับพร
ในอิสลาม ไม่มีความแตกต่างระหว่างสีผิว สถานะ แหล่งกำเนิด หรือแม้แต่ว่า คุณจะเคยเป็นคนเลวมากขนาดไหนในอดีต ก็ไม่สำคัญ ถึงตอนนี้ เขาค้นพบด้วยความประหลาดใจ ว่า เสรีภาพ ความสุข และความสำเร็จ ไม่อาจถูกขวางกั้นด้วยข้อจำกัด เช่น ลูกกรงห้องขัง
ในที่สุด อามีน มุบารัค ถูกส่งตัวไปรับโทษต่อที่คุกในออสเตรเลีย เขารู้สึกดีใจมาก และขอบคุณอัลลอฮฺทุกครั้ง ในการละหมาดวันละ 5 เวลา ขอบคุณพระองค์ที่ทำให้เขายังมีชีวิตอยู่ เพื่อการใช้ชีวิตที่เปี่ยมคุณค่าในทุก ๆ วัน
ทางทีมงานมุสลิมไทยโพสต์ ขอดุอาอฺหรืออำนวยพร และขอร่วมเป็นกำลังใจให้เธอดำรงมั่นในศรัทธาธรรมตลอดไป อามีน
ที่มา: www.revertsoftheworld
แปลโดย สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: http://news.muslimthaipost.com/news/33643
- จากคนขี้โมโห ภาวะซึมเศร้า เด็กหนุ่มฝันเห็นกะอฺบะอฺ ทำให้เขาหันมาศึกษาอิสลาม
- นางงามเชคโกสโลวาเกีย เข้ารับอิสลาม เริ่มชีวิตใหม่ด้วยฮิญาบ
- คุณยาย 92 ปี เข้ารับอิสลาม แรงบันดาลใจจากเพื่อนบ้านมุสลิม อัลฮัมดุลิลลาห์
- ต้องการฆ่ามุสลิม แต่จบลงด้วยการเข้ารับอิสลาม
- ฟีโรซ ข่าน โบกมือลาวงการแสดงเพื่ออิสลาม
- Myriam Francois Cerrah อดีตดาราฮอลลีวู้ด เข้ารับอิสลาม