ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศห้าม ประชาชนและผู้อยู่อาศัยในราชอาณาจักรมาทำอุมเราะฮ์ที่มัสยิดฮะรอมในมักกะฮ์ ในขณะที่ทางการอิหร่านประกาศระงับการจัดละหมาดวันศุกร์
สำนักข่าวมุสลิมยไทยโพสต์: 'ไวรัสโคโรน่า'สกัดกั้นผู้แสวงบุญแม้เป็นชาวซาอุฯ-อิหร่านห้ามจัดละหมาดวันศุกร์
การระบาดของไวรัสโคโรน่าขวางกั้นการปฏิบัติศาสนกิจของชาวมุสลิมในตะวันออกกลาง โดยเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศห้าม ประชาชนและผู้อยู่อาศัยในราชอาณาจักรมาทำอุมเราะฮ์ที่มัสยิดฮะรอมในมักกะฮ์ ในขณะที่ทางการอิหร่านประกาศระงับการจัดละหมาดวันศุกร์ ในเมืองหลักหลายเมือง
สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการซาอุดิอาระเบีย ประกาศห้ามชาวต่างชาติเดินทางมาทำอุมเราะฮ์ที่มักกะฮ์ และเยือนมัสยิดนบีที่มาดินะฮ์ การตัดสินใจดังกล่าวได้ขัดขวางมุสลิมหลายหมื่นคนที่เตรียมมุ่งหน้ามาทำอุมเราะฮ์ และมีผลต่อแผนการณ์ที่ผู้แสวงบุญหลายคนหลายล้านคน เตรียมไว้สำหรับการมาทำอุมเราะฮ์ และถือศีลอดในเดือนรอมฎอน อีกทั้งการทำพิธีฮัจญ์ก็อาจจะถูกกระทบด้วย
หลังการประกาศเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผู้แสวงบุญหลายคนที่เดินทางถึงมักกะฮ์แล้ว ยังสามารถไปทำอุมเราะฮ์ได้ แต่จะเห็นได้ว่า ผู้คนที่เวียนรอบกะอฺบะอฺบางตากว่าปกติมาก ทั้ง ๆ ที่ในแต่ละปีมีผู้เดินทางไปทำอุมเราะฮ์นับล้าน ๆ ยกตัวอย่างในปีที่ผ่านมา จำนวนผู้เดินทางไปทำอุมเราะฮ์ อยู่ที่ 7.5 ล้านคน
ยังคงไม่แน่ชัดว่า การห้ามทั้งหลายจะมีผลอยู่นานเท่าใด แม้รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย จะย้ำว่า มาตรการดังกล่าวจะเป็นไปเพียงชั่วคราว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววถึงกำหนดยกเลิก
ในสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ทางการยกเลิกการจัดละหมาดญุมอัตวันศุกร์ ในเมืองหลักของทุกจังหวัด ท่ามกลางข่าวการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่สังหารชีวิตผู้ติดเชื้อไปแล้ว 92 คน และยังมีผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 2,922 คน
ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี แถลงแก่คณะรัฐมนตรี ว่า โรคนี้เป็นโรคระบาดที่แพร่เชื้อเร็วมากและครอบคลุมในเกือบทุกจังหวัดของอิหร่าน เป็นโรคที่หลายประเทศในโลกมีผู้คนติดเชื้อ และเราต้องทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับปัญหานี้โดยเร็ว
ในขณะที่ชาวมุสลิมสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ที่บ้าน แต่ศรัทธาชนส่วนใหญ่ก็ชอบที่จะเดินทางมาละหมาดรวมในทุกวันศุกร์ ร่วมกับผู้ที่อยู่ในชุมชนเดียวกัน ทั้งเป็นโอกาสในการรับฟังคำเทศนาหรือโอวาท จากผู้รู้หรือนักวิชาการทางศาสนา ซึ่งสำหรับในอิหร่าน ผู้ที่จะมากล่าวบรรยายข้อความเชิงอุดมการณ์ จะเป็นผู้ที่ถูกเลือกสรรโดย อะยาตอลเลาะฮ์ อะลี คาเมเนอี ผู้นำจิตวิญญาณแห่งอิหร่าน
ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าทั่วตะวันออกกลางกว่า 3,150 คน ซึ่งปรากฏว่า ส่วนมากของผู้ติดเชื้อที่อยู่นอกประเทศอิหร่าน ล้วนสามารถเชื่อมโยงกลับไปสู่ต้นทางที่ประเทศอิหร่านทั้งสิ้น
ไวรัสโคโรน่าคืออะไร
ไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า COVID-19 โควิด19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ มีความรุนแรงเทียบเท่ากับโรคซาร์สมากที่สุด ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้
องค์การอนามัยโลก ยังไม่สามารถหาที่มาของเชื้ออย่างชัดเจนได้ แต่สันนิษฐานว่าอาจจะมาจากเนื้อสัตว์ป่าที่ซื้อขายอยู่ และปัจจุบันเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้แล้ว จากการถูกไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของคนที่ป่วย
ดังนั้น เราควรดูแลตนเองเพื่อให้ร่างกายห่างไกลจากเชื้อไวรัสโคโรน่า โดยมีวิธีการรับมือ ดังนี้
- เชื้อไวรัสนี้ติดต่อผ่านทางลมหายใจ สารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย ควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน
- เชื้อไวรัสโคโรน่าติดต่อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ควรทานแบบสุกเท่านั้น
- ควรทานอาหารที่สุกแล้ว งดอาหารดิบ และเนื้อสัตว์ป่า
- หมั่นล้างมือหรือเช็ดด้วยแอลกอฮอล์
- ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยที่ไอ จาม
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด และมีมลภาวะเป็นพิษ
- งดเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงโรคระบาด
- ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก ถ้าไม่จำเป็น
- ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ฯลฯ
- ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์ทันที!!!
ที่มา: www.pbs.org
http://news.muslimthaipost.com/news/33706
- COVID-19 ระบาดหนัก! ทาจิกิสถานสั่งปิดมัสยิดทั้งหมด
- อิรักสั่งยกเลิกละหมาดวันศุกร์ สถานศักดิ์สิทธิ์อิมามฮุสเซน
- ซาอุฯเจอติด'ไวรัสโควิด-19' รายสอง ห้ามทำอุมเราะฮ์ลามถึงคนในประเทศแล้ว!
- COVID-19: สภามัสยิดอินโดนีเซีย ขอร้องผู้ป่วยให้ปฏิบัติศาสนกิจที่บ้าน
- ซาอุฯเพิ่มมาตรการต้านเชื้อไวรัส มัสยิดสำคัญ2แห่ง
- ภาพในวันที่ลานตอวาฟว่างเปล่า(ชั่วคราว)COVID-19