มีการจับกุมคุมขัง สมาชิกราชวงศ์ระดับสูงของซาอุดิอาระเบีย 3 พระองค์ อาทิ เจ้าชายอะเหม็ด บิน อับดุลอาซิส น้องชายของกษัตริย์ซัลมาน
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: จับกุม สมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงซาอุฯ พยายามก่อปฏิวัติ
ริยาดฮ์ – แหล่งข่าวที่รู้เห็นเรื่องดังกล่าวรายงานว่า มีการจับกุมคุมขัง สมาชิกราชวงศ์ระดับสูงของซาอุดิอาระเบีย 3 พระองค์ อาทิ เจ้าชายอะเหม็ด บิน อับดุลอาซิส น้องชายของกษัตริย์ซัลมาน และเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นายาฟ หลานชายของกษัตริย์ซัลมาน ด้วยข้อหาวางแผนก่อการปฏิวัติ
มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ทรงก้าวขึ้นมามีบทบาทเป็น "ผู้ปกครองสูงสุดในทางพฤตินัย" ของซาอุดีอาระเบีย
มกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน โอรสกษัตริย์ซัลมาน และผู้ปกครองประเทศโดยพฤตินัย รวมทั้งยังเป็นพันธมิตรหลักที่ใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา เป็นผู้กำอำนาจทั้งหมดไว้ในมือ หลังจากมีการแต่งตั้งพระองค์ขึ้นสู่ตำแหน่ง และปลดเจ้าชายโมฮัมหมัด บิน นาเยฟ เจ้าชายรัชทายาทคนเดิมออกจากตำแหน่ง หลังมีข่าวที่ไม่ยืนยัน ว่ามีการก่อรัฐประหารในพระราชวัง เมื่อปี 2017
ต่อมาในปีเดียวกัน มกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน สั่งจับกุมสมาชิกราชวงศ์ และบุคคลผู้มีชื่อเสียงในซาอุดิอาระเบีย นับร้อยคน ไปกักขังไว้ในโรงแรมหรู Ritz-Carlton ในริยาดฮ์ เป็นเวลาหลายเดือน โดยอ้างว่าเป็นการรณรงค์ต่อต้านคอรัปชั่น สร้างความตื่นตระหนกทั้งในราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย และทั่วโลก
แหล่งข่าว 5 แหล่งของรอยเตอร์ ให้ข่าวตรงกันว่า เจ้าชายทั้ง 2 ดังกล่าวถูกจับกุมในปฏิบัติการณ์ครั้งล่าสุดนี้ ในขณะที่ 3 ใน 5 แหล่งข่าว รวมทั้งที่เป็นแหล่งข่าวส่วนภูมิภาค ระบุว่า เจ้าชายโมฮัมหมัด บิน นาเยฟ และน้องต่างมารดา คือ เจ้าชายนาวาฟ ถูกจับกุมที่ค่ายพักส่วนตัวในทะเลทราย เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ส่วนเจ้าชายอะเหม็ด (น้องชายของกษัตริย์ซัลมาน) ถูกจับกุมตัวจากที่บ้าน
ทั้งนี้ มกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน กล่าวหาว่าพวกเขาติดต่อทางลับกับกองกำลังต่างประเทศ ซึ่งรวมทั้งสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ ให้เข้ามาร่วมก่อรัฐประหาร แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า การกวาดล้างครั้งนี้ทำให้อำนาจทั้งหมดตกอยู่ในกำมือของ MbS โดยสิ้นเชิง เพราะฝ่ายตรงข้ามที่จะขัดขวางไม่ให้เขาขึ้นเป็นกษัตริย์ ได้ถูกควบคุมตัวไว้หมดสิ้นแล้ว
โมฮัมเหม็ด บิน นายาฟ หลานชายของกษัตริย์ซัลมาน
แหล่งข่าวยังระบุว่า เจ้าชายที่ถูกจับกุมตัวถูกตั้งข้อหาทรยศต่อราชอาณาจักร อีกแหล่งข่าวระบุว่า พวกเขาได้ทำการหารือเรื่องรัฐประหาร และขอการสนับสนุนจากผู้นำเผ่าตระกูลต่าง ๆ ในซาอุดี้ ฯ แต่การเจรจายังไม่ทันก้าวหน้า
สำนักข่าวทางการของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ยังไม่ได้ให้คำตอบในรายละเอียดของเรื่องนี้ หลังจากที่สำนักข่าว Wall Street Journal ได้รายงานข่าวนี้ครั้งแรก และไม่มีใครแน่ใจว่า ผู้ถูกจับกุมทั้งหมดถูกกักขังไว้ที่ไหน
มีรายงานว่า กษัตริย์ซัลมาน ทรงรู้เห็น และเป็นผุ้อนุมัติการจับกุมครั้งนี้ รายงานยังระบุว่า กษัตริย์วัย 84 ปี ทรงมีสุขภาพพลานามัยดี ทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ทรงพบปะกับรัฐมนตรีกิจการต่างประเทศอังกฤษ นาย Dominic Raab ที่ริยาดฮ์ และทรงร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี พร้อมกับมกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา
นักวิจารณ์แสดงความสงสัยว่า มกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน วัย 34 ปี จะขึ้นครองราชย์ได้หรือไม่ หลังจากมีข่าวว่า เขาอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมนักหนังสือพิมพ์ชื่อดังชาวซาอุดิอาระเบีย ที่สถานกงสุลในตุรกี เมื่อปี 2018 ยิ่งกว่านั้น เขายังสร้างความไม่พอใจให้กับสมาชิกราชวงศ์ที่มีชื่อเสียงหลายคน จากการที่เขากระชับอำนาจอย่างเข้มงวดกับทุกฝ่าย
กล่าวกันว่า สมาชิกราชวงศ์ที่มีความคิดต้องการเปลี่ยนตัวผู้สืบทอดตำแหน่ง ได้หมายตาเจ้าชายอะเหม็ด (น้องชายร่วมมารดาที่เหลือเพียงคนเดียวของกษัตริย์ซัลมาน) ไว้ เพราะเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกในครอบครัว ฝ่ายรักษาความมั่นคง และอำนาจตะวันตก
ทางการซาอุดี้ ฯ ไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการสืบทอดตำแหน่ง หรือวิพากษ์วิจารณ์ความเป็นผู้นำของมกุฎราชกุมารแต่อย่างใด แต่พระองค์เป็นที่นิยมชมชอบของเหล่าเยาวชน คนหนุ่มสาวในซาอุดี้ ฯ และยังได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกในราชวงศ์ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10,000 คน
คนวงใน และนักการทูตตะวันตก กล่าวว่า ตราบใดที่กษัตริย์ซัลมานยังคงมีพระชนม์ชีพอยู่ สมาชิกครอบครัวคงไม่ต่อต้าน มกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน เพราะพระองค์จะต้องสนับสนุนพระโอรสในทุกเรื่อง
สตีเฟน เฮอร์ทอค จาก คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยลอนดอน กล่าวว่า การจับกุมคุมขังครั้งนี้ เป็นข้อเตือนใจสมาชิกราชวงศ์ว่า ไม่ควรล้ำเส้นของมกุฎราชกุมาร MbS ในทุกเรื่อง และว่า นี่ไม่น่าจะเป็นแผนการที่สำคัญ และทันสม้ยในการเปลี่ยนแปลงผู้นำซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากบุคคลที่ถูกจับกุมไปจะไม่สามารถเข้าถึงแหล่งใด ๆ ของรัฐได้อีกต่อไป
เจ้าชายอะเหม็ด บิน อับดุลอาซิส ทรงเก็บพระองค์เงียบหลังกลับมาอยู่ริยาดฮ์ ในเดือนตุลาคม 2018 (ทรงเดินทางไปอยู่ต่างประเทศสองเดือนครึ่ง) นักสังเกตการณ์กล่าวว่า ไม่พบหลักฐานที่แสดงว่า พระองค์เต็มใจที่จะขึ้นสู่บัลลังก์ แต่ขณะที่อยู่ต่างประเทศ ทรงวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำซาอุดี้ ฯ ระหว่างที่ทรงตอบโต้กับผู้ที่มาชุมนุมประท้วงนอกที่พักของพระองค์ที่กรุงลอนดอน โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้ราชวงศ์ซาอุดี้ ฯ จงล่มสลาย
พระองค์เป็น 1 ใน 3 คน ในที่ประชุมสภาแห่งความจงรักภักดี ที่ประกอบด้วยสมาชิกอาวุโสของราชวงศ์ ซึ่งแสดงความไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้ง MbS เป็นมกุฎราชกุมารในปี 2017
หลังการแสดงความไม่เห็นด้วยในที่ประชุมสภาแห่งความจงรักภักดี เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ เป็นอีกองค์หนึ่งที่ถูกจับตาอย่างเข้มงวด เจ้าชายดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง กระทรวงกิจการภายในประเทศ ทรงมีความสัมพันธ์ล้ำลึกกับหน่วยงานความมั่นคง และหน่วยงานข่าวกรองสหรัฐอเมริกา ส่วนอีกองค์หนึ่งคือ เจ้าชายนาวาฟ (น้องชายของเจ้าชายนาเยฟ) ซึ่งไม่ทรงมีบทบาทที่โดดเด่นแต่ประการใด
ที่มา: www.reuters.com
http://news.muslimthaipost.com/news/33718
- มัสยิดฮะรอม-มัสยิดนะบะวี ถูกปิดหลังเสร็จละหมาดอิชาอฺทุกคืน
- COVID-19: ซาอุฯเปิดลานมัสยิดให้ตอวาฟ แต่กั้นห้ามเข้าใกล้กะอฺบะอฺ
- สำนักจุฬาราชมนตรี แถลงการณ์ ขอมุสลิมเคร่งครัด เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019
- 'ไวรัสโคโรน่า'สกัดกั้นผู้แสวงบุญแม้เป็นชาวซาอุฯ-อิหร่านห้ามจัดละหมาดวันศุกร์
- ซาอุฯเจอติด'ไวรัสโควิด-19' รายสอง ห้ามทำอุมเราะฮ์ลามถึงคนในประเทศแล้ว!
- ภาพในวันที่ลานตอวาฟว่างเปล่า(ชั่วคราว)COVID-19
- ซาอุฯ ประกาศคืนเงินอุมเราะห์ หลังห้ามเข้าประเทศเหตุ COVIT-19
- ด่วน! ซาอุฯประกาศงดเข้าประเทศ สกัดไวรัสโควิค