ตำรวจอินเดียตั้งข้อหา “ฆ่าโดยไม่เจตนา” ซึ่งมีโทษน้อยกว่าการฆาตกรรม แก่หัวหน้าองค์กรตับลีฆดะวะห์ ซึ่งจัดการชุมนุมเมื่อเดือนที่ผ่านมา
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ดะวะห์อินเดีย เจอตั้งข้อหา 'ฆ่าโดยไม่เจตนา' หลังติดเชื้อกว่า 1,000 คน
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา ว่า ตำรวจอินเดียตั้งข้อหา “ฆ่าโดยไม่เจตนา” ซึ่งมีโทษน้อยกว่าการฆาตกรรม แก่หัวหน้าองค์กรตับลีฆดะวะห์ ซึ่งจัดการชุมนุมเมื่อเดือนที่ผ่านมา จนทำให้ผู้ไปร่วมกิจกรรมติดเชื้อไวรัสโควิต-19 กว่า 1,000 คน
วันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา ทางการตำรวจสั่งปิดศูนย์ใหญ่ของกลุ่มตับลิฆี ญามาอัต (Tablighi Jamaat) หลังจากที่หลายคนปรากฏผลบวก ในการทดสอบการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-19 และมีรายงานการเสียชีวิตหลายคนหลังปิดการชุมนุมของกลุ่มดะอฺวะฮ์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมีผู้มาร่วมงานราว 8,000 คน ทั้งจากในประเทศ และจากต่างประเทศ
วันที่ 31 มีนาคม ตำรวจเดลฮีตั้งข้อหาทางอาญาแก่ มุฮัมมัด ซาอัด ฆันดาลวี ผู้จัดงาน รวมทั้งข้อหาสมคบคิดก่ออาชญากรรม อันเนื่องมาจากการละเมิดคำสั่งห้ามชุมนุม
ในวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา ตำรวจเดลฮีระบุว่า พวกเขาจะตั้งข้อหา “ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา” โดยเป็นการเพิ่มมาตรา 304 เข้าใปกับข้อหาเดิม โทษของการ “ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา” คล้ายกับโทษฐานฆาตกรรมในสหรัฐ ฯ โดยมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี
หลังจากกิจกรรมตับลีฆถูกสั่งยกเลิก มีการสั่งตามล่าหาตัวผู้เข้าร่วมชุมนุมทั่วประเทศ เพื่อนำมาตรวจโรคและกักตัวเพื่อมิให้ไปแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น
เมื่อวันที่ 1 เมษายน รัฐบาลอินเดียส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่นำโดยสตรี ไปสกรีนผู้ต้องสงสัยเข้าร่วมในกิจกรรมดะอฺวะฮ์ ที่จัดขึ้นทางตอนใต้ของประเทศ แต่ได้รับการปฏิบัติต่อด้วยความรุนแรงจากกลุ่มม๊อบชายมุสลิมราว 40-50 คน ซึ่งถูกชี้นำโดยมัสยิดในท้องถิ่น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้รับการประณามจากรัฐบาลอย่างยิ่ง
รายงานจากทางการ เมื่อวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ระบุว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-19 จำนวน 1,080 ราย จากทั้งหมด 1,561 เป็นผู้ที่ได้รับเชื้อจากการไปร่วมงานดะวะห์
จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-19 ในประเทศอินเดีย พุ่งขึ้นเป็น 12,759 ราย ในการรายงานเมื่อวันที่ 16 เมษายน โดยมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้แล้ว 432 ราย
ที่มา: www.breitbart.com