สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (ONS) เปิดเผยตัวเลขที่ระบุว่า ชายมุสลิมในอังกฤษและเวลส์ เป็นกลุ่มที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากที่สุด
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: อึ้งสถิติ! ชายมุสลิมอังกฤษและเวลส์ มีอัตราตายจากโควิด-19 สูงที่สุด
สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (ONS) เปิดเผยตัวเลขที่ระบุว่า ชายมุสลิมในอังกฤษและเวลส์ เป็นกลุ่มที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากที่สุด
สถิติที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา ระบุว่า ระหว่างการเกิดโรคระบาดในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อัตราการเสียชีวิตของชายชาวมุสลิมอยู่ที่ 198.9% ต่อจำนวน 100,000 คน ในขณะที่อัตราการตายของหญิงมุสลิมอยู่ที่ 98.2%
เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มคนที่ระบุว่า ไม่มีศาสนา (จากการแจ้งในปี 2011) กลุ่มนี้มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด เป็นชาย 80.7% ต่อจำนวน 100,000 คน หญิง 47.9%
ตัวเลขดังกล่าวมาจากการสำรวจระหว่างวันที่ 2 มีนาคม – 15 พฤษภาคม และยังสะท้อนให้เห็นถึงตัวเลขอัตราการตายจากเหตุอื่นของชนกลุ่มน้อยในอังกฤษด้วย
สถิตินี้ยังสอดคล้องกับการสำรวจอื่น ๆ ที่แสดงว่า คนผิวดำและผู้ที่มีเชื้อสายจากเอเซีย ในอังกฤษและเวลส์ เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคโควิด-19
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานรั่วออกมาจากหน่วยงานสาธารณะสุขของอังกฤษ (PHE) ระบุการพบปัจจัยต่าง ๆ อาทิ อคติทางเชื้อชาติ และความไม่เท่าเทียมทางสังคม อาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนผิวดำ เอเชีย และชนกลุ่มน้อยที่ติดเชื้อ และเสียชีวิตด้วยไวรัสโควิด-19
รายงานฉบับที่ 2 จาก PHE เปิดเผยว่า “ประวัติการเหยียดเชื้อชาติและประสบการณ์การดูแลสุขภาพที่แย่ลง” หมายความว่า บุคคลในกลุ่ม BAME มีโอกาสน้อยที่จะได้รับการดูแล เมื่อความจำเป็นมาถึง
รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคโควิตในอังกฤษ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน อยู่ที่ 42,461 ซึ่งคาดว่าตัวเลขที่แท้จริงอาจจะสูงกว่านี้
ที่มา: www.middleeasteye.net
http://news.muslimthaipost.com/news/34180
- มาเลเซียเปิดให้ 2 ประเทศนี้เข้า โดยไม่ต้องกักตัวและตรวจโควิด
- บรูไนประกาศเลื่อนส่งผู้แสวงบุญฮัจญ์
- BBC เผยตัวเลขผู้ตายโควิด-19 แท้จริงอาจน้อยกว่าที่แจ้งถึงกว่าแสนราย
- แม้ถือศีลอดก็ไม่หวั่น! ชายมุสลิมวิ่ง 260 ก.ม.หวังเงินบริจาคมาทำสิ่งนี้
- สุดชุ่ย! แจกอาหารกระป๋องหมูให้ 'ครอบครัวมุสลิม'
- 'ซาลาห์' ขวัญใจลิเวอร์พูล มุสลิมผู้ทำลายกำแพงศาสนาในอังกฤษ
- ดราม่าเหยียดเชื้อชาติ-ศาสนา! เมื่อทารกคนแรกเกิดในวันปีใหม่เป็น 'มุสลิม'