อัยการสหรัฐอเมริกา ตั้งข้อหาพ่อ-ลูก ชาวนิวยอร์ก หลังเดินทางกลับจากไปร่วมกับ ISIS
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: สหรัฐฯตั้งข้อหาพ่อ-ลูกนิวยอร์ก เข้าร่วม ISIS
อัยการสหรัฐอเมริกา ตั้งข้อหาพ่อ-ลูก ชาวนิวยอร์ก หลังเดินทางกลับจากไปร่วมกับ ISIS
อัยการสหรัฐอเมริกา ตั้งข้อหาชายชาวนิวยอร์กและบุตรชาย ที่เดินทางไปซีเรียเพื่อร่วมกับกลุ่ม ISIS โดยคำฟ้องระบุว่า นายอิมรอน อะลี วัย 53 ปี เกิดที่ทรินิแดด ได้เดินทางไปซีเรียพร้อมภรรยา และบุตรชายวัย 14 ปี ชื่อ ญิฮาด เมื่อปี 2015 ทั้งอิมรอนและญิฮาด ได้เข้ารับการฝึกการใช้อาวุธกับสมาชิก ISIS และพวกเขาเข้ามอบตัวกับกองกำลังประชาธิปไตยชาวซีเรีย (SDF) ที่นำโดยชาวเคิร์ด ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่ Baghouz ในซีเรีย ก่อนที่ ISIS จะแตกพ่ายไปในเดือนมีนาคม 2019
ทั้ง 2 เป็นชาวอเมริกันชุดล่าสุดที่จะถูกตั้งข้อหาจัดหาอุปกรณ์เพื่อสนับสนุน ISIS โดยก่อนหน้านี้ ในเดือนกันยายน ชาวเมืองชิคาโก เชื้อสายโคโซโว ขึ้นศาลในวอชิงตัน ดีซี.ด้วยข้อหาเดียวกัน และในเดือนนี้ ชายชาวเมืองมินนีอาโปลิส ที่มาจากเมือง Baghouz เช่นกัน ก็ได้ขึ้นศาลเช่นกัน
อัยการระบุในคำฟ้องว่า ทั้งอิมรอนและญิฮาด ยอมรับว่าได้ทำการต่อสู้ให้กับกองกำลัง ISIS ของ อันวาร์ อัล-เอาลากี ซึ่งพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง ส่วนญิฮาดอ้างว่า เขาเคยใช้อาวุธในการยิงหลายครั้ง แต่ไม่เชื่อว่าจะยิงถูกฝ่ายตรงข้าม และยังปฏิเสธถึงเรื่องที่เขาเขียนส่งให้แม่ใน WhatsApp ว่าไม่ใช่เรื่องจริง
ส่วนอิมรอน เล่าให้พนักงานสอบสวนฟังว่า เขาอ้างความเจ็บป่วยเป็นเหตุผลในการละทิ้งหน่วยที่เขาถูกส่งไปประจำการ หลังจากพบว่า มีหลายคนเสียชีวิตในการต่อสู้
ในทางตรงกันข้าม หลักฐานของทางฝ่าย ISIS ที่ยึดได้ อ้างถึง ชื่อของชายคนหนึ่งในจำนวน 44 คน ที่อยู่ในหน่วยที่ได้รับการยอมรับ คือ Abu Jihad al-Trinidadi al-Amriki (พ่อของญิฮาด ซึ่งเป็นชาวทรินิแดด-อเมริกัน) ซึ่งเป็นคนเดียวที่ได้รับมอบปืนไรเฟิ่ล อเมริกัน M4 อันเป็นรางวัลสำหรับนักรบญิฮาด ISIS และเขายังมีชื่อที่เป็นที่รู้จักกันว่า Abu Jihad ‘TNT’ ซี่งหมายถึง ดินแดนประเทศ Trinidad and Tobago
ที่มา: www.al-monitor.com