ประท้วงใหญ่ในอินโดนีเซีย ต้านกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ MUSLIMTHAIPOST

1632

กลุ่มมุสลิมหัวอนุรักษ์นิยมในอินโดนีเซียหลายพันคน ได้ออกมารณรงค์ประท้วงในกรุงจาการ์ต้า เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเพิกถอนกฎหมายแรงงานฉบับใหม่

สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ประท้วงใหญ่ในอินโดนีเซีย ต้านกฎหมายแรงงานฉบับใหม่

วันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา กลุ่มมุสลิมหัวอนุรักษ์นิยมในอินโดนีเซียหลายพันคน ได้ออกมารณรงค์ประท้วงในกรุงจาการ์ต้า เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเพิกถอนกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ ซึ่งพวกเขากล่าวว่าเป็นการจำกัดสิทธิ์

เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นถนนที่เป็นเส้นทางไปสู่ทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งการปะทะกันระหว่างตำรวจปราบจลาจล และผู้ประท้วงขว้างปาหิน ซึ่งมีทั้งผู้ใช้แรงงานและนักศึกษา เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา การประท้วงลุกลามและกลายเป็นความรุนแรงในบางเมืองของอินโดนีเซีย แต่ก็กลับสงบลงในช่วง 4 วันที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ถนนในจาการ์ต้าที่เคยมีรถติดยาวกลับว่างเปล่า สถานทูตต่าง ๆ ปิดทำการ รวมทั้งสถานที่ทางธุรกิจหลายแห่ง หลังจากที่กลุ่มมุสลิมหลายกลุ่มประกาศว่าจะออกมาประท้วง

กฎหมายการสร้างงานที่ผ่านการอนุมัติโดยรัฐสภาอินโดนีเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงระบบแรงงานและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติของอินโดนีเซียได้อย่างมาก โดยก่อนหน้านี้มีการแก้ไขกฎหมาย 79 ฉบับ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบราชการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาลเพื่อดึงดูดการลงทุนเข้าสู่ประเทศให้มากขึ้น

ในขณะที่ผู้ประท้วงกล่าวว่า กฎหมายใหม่จะส่งผลร้ายต่อคนงาน เพราะ มีการตัดเงินชดเชย การยกเลิกข้อจำกัดในการจ้างแรงงานคนต่างชาติ การจ้างคนงานจากแหล่งภายนอก และเปลี่ยนการจ่ายค่าค่าจ้างรายเดือน เป็นการจ่ายรายชั่วโมง

โชบริ ลูบิส ผู้จัดการประท้วงได้กล่าวกับฝูงชน ซึ่งรวมทั้งสมาชิกของกลุ่มพิทักษ์อิสลาม ว่า พวกเขาสนับสนุนคนงานและนักศึกษาในการต่อสู้ที่ต่อต้านกฎหมายนี้ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กฎหมายสร้างงานฉบับใหม่นี้ตั้งใจที่จะให้คุณแก่เศรษฐกิจของต่างชาติในอินโดนีเซีย และไม่เข้าข้างคนงานในท้องถิ่น

ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด้ กล่าวเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า กฎหมายใหม่มีขึ้นเพื่อปรับปรุงสวัสดิการของคนงาน และการประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมาย เขายังเรียกร้องให้ผู้ที่ไม่พอใจกฎหมายนี้นำเรื่องขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อมิให้เกิดการออกมาประท้วงที่รุนแรงบนท้องถนน