อดีตเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำอียิปต์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายประสานงานของอิสราเอลในโมร็อกโก ตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ทูตอิสราเอลงานเข้า! เจอเจ้าบ้านโมร็อกโกไม่ให้เช่าที่พัก
เดวิด กอฟริน (David Govrin) อดีตเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำอียิปต์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายประสานงานของอิสราเอลในโมร็อกโก ตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา หลังจากที่โมร็อกโกปรับความสัมพันธ์สู่ระดับปกติกับอิสราเอล เป็นประเทศที่ 4
แม้จะปฏิบัติงานมาจนเกือบครบ 6 เดือน แต่นายกอฟริน ยังคงทำงานจากโรงแรม โดยไม่สามารถหาอาคาร หรือสถานที่ที่จะทำเป็นสำนักงานได้เลย
สื่อทั้งในโมร็อกโกและอิสราเอล รายงานว่า เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ หรืออาคาร บ้านเรือน ในโมร็อกโก ปฏิเสธที่จะให้สถานทูตอิสราเอลเช่าพื้นที่เป็นสำนักงาน
เว็ปไซต์ท้องถิ่น Assaifa รายงานเมื่อสัปดาห์ก่อน ว่า เอเจนซี่ที่ได้รับการว่าจ้างให้หาที่พักให้กอฟริน ได้พบสถานที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม ซึ่งตั้งอยู่ในย่านหรูของกรุงราบัต โดยอาคารมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จำเป็น และกอฟรินก็พอใจ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ เจ้าของอาคารปฏิเสธที่จะให้เช่าทรัพย์สิน ทันที่เขารู้ว่าผู้เช่าเป็นใคร แหล่งข่าวในโมร็อกโกยังระบุว่า เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นในสถานที่อยู่อาศัยอื่น ๆ ในพื้นที่เช่นกัน
การปรับความสัมพันธ์สู่ระดับปกติกับอิสราเอลเมื่อเดือนธันวาคม ได้จุดชนวนให้เกิดความโกรธแค้นขึ้นในโมร็อกโก โดยเกิดการประท้วงขึ้นหลายครั้ง รวมทั้งมีการวิพากษ์วิจารณ์ และประณามการตัดสินใจของรัฐบาล
รัฐบาลโมร็อกโกตอบโต้การวิพากษ์วิจารณ์ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างโมร็อกโกกับอิสราเอลนั้น มีความ “เป็นปกติอยู่แล้ว” และการประกาศปรับความสัมพันธ์ ก็เท่ากับเป็นการเริ่มต้นใหม่อย่างเป็นทางการเท่านั้น
อียิปต์และจอร์แดน เป็น 2 ประเทศที่ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับอิสราเอล ในปี 1970 และ 1994 ตามลำดับ ตามมาด้วยเอมิเรตส์ และบาห์เรน เมื่อเดือนกันยายน 2020 ซูดานเป็นประเทศที่ 3 โดยโมร็อกโกยอมปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอล เพราะอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้ประสานงาน ให้คำมั่นว่า สหรัฐ ฯ ตกลงที่จะยอมรับข้อเรียกร้องของโมร็อกโก เหนือภูมิภาคซาฮาร่าตะวันตก ที่มีข้อพิพาทบาดหมางกันตลอดมา
ที่มา: www.aljazeera.com