ผู้แสวงบุญหลายแสนคนจากทั่วโลกต่างยกมือขอดุอาอฺและสวดภาวนาบนเนินเขาอารอฟะห์ ในวันที่ 8 กรกฎาคม ซึ่งถือเป็นวันสำคัญสูงสุดของพิธีฮัจญ์ในแต่ละปี
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ฮุจญาจหลายแสนถึงทุ่งอารอฟะห์ จุดสูงสุดของพิธีฮัจญ์
ผู้แสวงบุญหลายแสนคนจากทั่วโลกต่างยกมือขอดุอาอฺและสวดภาวนาบนเนินเขาอารอฟะห์ ในวันที่ 8 กรกฎาคม ซึ่งถือเป็นวันสำคัญสูงสุดของพิธีฮัจญ์ในแต่ละปี
ฮุจญาจยืนไหล่ชิดไหล่และเท้าชิดเท้า ร่วมวิงวอนในหุบเขาทะเลทราย ที่ซึ่งชาวมุสลิมเชื่อว่าศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้กล่าวเทศนาครั้งสุดท้าย เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมและความสามัคคีในหมู่มุสลิม
ประสบการณ์ดังกล่าวทำให้มุสลิมหลายคนต้องหลั่งน้ำตา พวกเขาเชื่อว่า การละหมาดที่ภูเขาอารอฟะห์ในวันนี้ เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของพวกเขาในการรอดพ้น และการฟื้นฟูทางจิตวิญญาณ ผู้แสวงบุญเดินทางมุ่งตรงไปยังทุ่งอารอฟะห์ ซึ่งอยู่ห่างจากนครมักกะฮ์ประมาณ 20 กิโลเมตร ตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง พวกเขาอ่านกุรอานขณะเดิน และจะอยู่ที่นั่นจนถึงพลบค่ำเพื่อละหมาดและวิงวอนอย่างลึกซึ้ง
ฮุจญาจชายพันร่างกายด้วยผ้าขาว 2 ผืน เหมือนผ้าห่อศพเพราะไม่มีการเย็บริมผ้า ในขณะที่ฮุจญาจหญิงสวมชุดเรียบร้อยที่ปกปิดร่างกาย พร้อมทั้งคลุมศีรษะแต่เปิดเผยใบหน้า
ฮัจญ์เป็นหนึ่งในหลักศาสนาของอิสลาม เป็นหน้าที่ครั้งหนึ่งในชีวิตสำหรับมุสลิมทุกคนที่มีความสามารถ ทั้งทางร่างกายและกำลังทรัพย์ พวกเขาจะดำเนินรอยตามเส้นทางที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้เดินไว้เป็นแบบอย่างเมื่อกว่า 1,400 ปีก่อน
ผู้แสวงบุญใช้เวลา 5 วันในการดำเนินพิธีกรรมตามแบบอย่างของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ซึ่งท่านได้ทำตามแบบอย่างของนบีอิบรอฮีมและนบีอิสมาอีล หรือ อับราฮัมและอิชมาเอล ที่ระบุในคัมภีร์ที่มาก่อนหน้า
พิธีเริ่มเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ด้วยการเวียนรอบกะอฺบะอฺ (ตอว๊าฟคุดูม) ซึ่งตั้งอยู่กลางมัสยิดฮะรอม นครมักกะฮ์ ซึ่งที่ตั้งนี้เป็นทิศที่มุสลิมทั่วโลกต้องผินหน้ามาสู่ในเวลาละหมาดทุกวัน ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใดของโลก
ช่วงดวงอาทิตย์ตกดินของวันที่ 8 ผู้แสวงบุญเดิน หรือนั่งรถไปที่ทะเลทรายมุสดาลิฟะห์ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกห่างจากอารอฟะห์ราว 9 ก.ม. ณ ที่นั้น พวกเขาจะเก็บก้อนกรวดสำหรับนำไปขว้างหินที่แทนสัญลักษณ์ของปีศาจ การขว้างเสาหินจะมีขึ้นในวันที่ 9 กรกฎาคม ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ในมีนา ซึ่งเชื่อกันว่า ปีศาจพยายามพูดชักชวนนบีอิบรอฮีมให้ไม่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า แต่นบีอิบรอฮีมไม่เชื่อและได้ขว้างก้อนหินเพื่อไล่พวกมันไป และแสดงการเอาชนะในสิ่งล่อใจต่าง ๆ
หลังพิธีฮัจญ์เสร็จสิ้นลง ผู้ชายจะโกนผม และผู้หญิงจะขลิบปลายผมเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่บริสุทธิ์ มุสลิมทั่วโลกเฉลิมฉลองวันอีดอัฎฮา หลังจากพิธีฮัจญ์เสร็จสิ้นลง มีการเชือดแกะ หรือปศุสัตว์ เพื่อรำลึกถึงการที่นบีอิบรอฮีมเต็มใจสังเวยชีวิตอิสมาอีลผู้เป็นบุตร ตามพระประสงค์ของพระเจ้า แต่สุดท้าย พระเจ้าได้ส่งแกะมาให้เชือดแทน เนื้อของปศุสัตว์ที่ถูกเชือดจะถูกแบ่งส่วนนำไปแจกจ่ายให้กับคนยากจน ญาติ พี่น้อง และเพื่อนได้รับประทานเพื่อเป็นบารอกัต (ความจำเริญ)
ที่มา: www.dailymail.co.uk