อิสราเอลสั่งห้ามผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมเข้าไปบริเวณมัสยิดอัลอักซอ จนกว่าจะสิ้นสุดเดือนรอมฎอน
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: สั่งห้าม 'ผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม' เข้ามัสยิดอัลอักซอ จนสิ้นเดือนรอมฎอน
ในวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา ทางการอิสราเอลสั่งห้ามชาวยิว และนักท่องเที่ยว ขึ้นไปยังบริเวณมัสยิดอัล-อักซอ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจอิสราเอลบุกโจมตีภายในมัสยิดอัล-อักซอ จุดชนวนความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ที่มีมานานหลายทศวรรษ ก่อให้เกิดการโจมตีด้วยจรวดจากฉนวนกาซ่า จากทางตอนใต้ของเลบานอน และซีเรีย ทำให้อิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่
- รอมฎอนปาเลสไตน์ ถูกทุบตีในมัสยิดอัลอักซอ (คลิป)
- ตร.อิสราเอล เหี้ยม! โจมตีบังคับให้ออกจากมัสยิดอัลอักซอ
- ซาอุฯ ประณามบุกขึ้นมัสยิดอักซอ ในเดือนรอมฎอน
- อิสราเอลเลี้ยงละศีลอดทูตมุสลิม ทูตเอมิเรตส์-บาห์เรน ไม่ร่วม!
- รอมฎอนอิสราเอล สั่งปิดมัสยิดอิบรอฮีมี ห้ามมุสลิมเข้า!
นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู กล่าวในการแถลงหลังมีการพูดคุยด้านความปลอดภัยว่า จะสั่งห้ามชาวยิว และนักท่องเที่ยวเข้าชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จนกว่าจะสิ้นสุดเดือนรอมฎอน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ประมาณวันที่ 20 เมษายน ที่จะถึงนี้
เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องโดยทันที ที่น่าสังเกต คือ ในปีที่ผ่านมา อิสราเอลเคยประกาศว่า จะห้ามชาวยิวขึ้นมายังมัสยิดอัล-อักซอ ในเดือนรอมฎอนเช่นเดียวกัน แต่ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวหัวรุนแรงก็ยังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่คุ้มกันอย่างแน่นหนา
จากการที่เทศกาลปัสกา ของชาวยิว ตรงกับช่วงหนึ่งของเดือนรอมฎอน ทำให้กองกำลังความมั่นคงของอิสราเอลอนุญาตให้ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิว ประมาณ 800 คน ขึ้นมาสวดมนต์บริเวณลานมัสยิดอัล-อักซอ ในเช้าวันที่ 6 ของวันหยุดเทศกาลปัสกา ซึ่งตรงกับวันอังคารที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงที่มีมายาวนาน ที่ห้ามทำกิจกรรมของศาสนาอื่นในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน
ยังไม่ชัดเจนว่า ขบวนการผู้ตั้งถิ่นฐานหัวรุนแรง ที่มีอำนาจมากขึ้น ของอิสราเอล จะปฏิบัติตามนโยบายของอัล-อักซอ หรือไม่ แต่ นายอิตามาร์ เบน-กวีร์ รัฐมนตรีขวาจัดที่ดูแลกำลังตำรวจ ผู้คลั่งไคล้ศาสนา และมีประวัติอาชญากรรมในการสนับสนุนการก่อการร้าย และยุยงให้เกิดการเหยียดเชื้อชาติ ได้ประณามคำสั่งห้ามของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู โดยกล่าวว่า “เมื่อการก่อการร้ายโจมตีเรา เราต้องตอบโต้กลับด้วยกำลังที่เหนือกว่า ไม่ใช่ยอมจำนนต่อแผนของมัน”
เชค เอกริมา ซาอิด ซาบรี อดีตมุฟตีใหญ่แห่งกรุงเยรูซาเล็มและปาเลสไตน์ และปัจจุบันเป็นนักเทศน์ ที่มัสยิดอัล-อักซอ กล่าวว่า อิสราเอลต้องการพิสูจน์ว่า พวกเขาเป็นผู้ตัดสินว่าอะไรจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ได้ที่อัล-อักซอ และเราเห็นว่า นี่เป็นการละเมิดและยั่วยุอย่างรุนแรง
ในขณะเดียวกัน ความรุนแรงของอิสราเอล ในเขตเวสต์แบงก์ ก็ไม่สงบลง เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 คน ในหมู่บ้าน Deir Al-Hatab ทางตะวันออกของเมืองนาบลัส ระหว่างการซุ่มโจมตีใกล้นิคม Elon Moreh แหล่งข่าวกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองเป็นอดีตนักโทษ และเป็นสมาชิกของกลุ่ม Al-Aqsa Martyrs’ Brigades ซึ่งเป็นกองทหารของพรรคฟาตะฮ์ ของประธานาธิบมะฮ์มูด อับบาส
ที่มา: www.arabnews.com
