ตำรวจอิสราเอล ใช้กำลังบังคับศรัทธาชนชาวปาเลสไตน์ให้ออกจากมัสยิดอัลอักซอ
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ตร.อิสราเอล เหี้ยม! โจมตีบังคับให้ออกจากมัสยิดอัลอักซอ
กรุงเยรูซาเล็มยังคงตึงเครียดหลังจากกองกำลังอิสราเอลบุกโจมตีชาวมุสลิมปาเลสไตน์ ที่นอนค้างคืน (เอี๊ยะติกาฟ) ในมัสยิดหลังเสร็จจากการละหมาดตะรอเวี๊ยะฮ์ ในตอนกลางคืน
มีความพยายามจากนานาชาติในการไกล่เกลี่ยระหว่างกลุ่มชาวปาเลสไตน์ และรัฐบาลอิสราเอล เพื่อลดความตึงเครียด หลังจากที่อิสราเอลถูกประณามจากการกระทำของกองกำลังของตน
การจู่โจมดำเนินต่อไปในช่วงเช้า โดยมีการเผยแพร่ภาพทหารอิสราเอลกำลังทุบตี และลากผู้มาปฏิบัติศาสนกิจ ออกจากมัสยิด ซึ่งช่วงนั้นเป็นเวลาไม่นานก่อนที่จะถึงเวลาเปิดบริเวณลานมัสยิดให้ต่างศาสนิกเข้าชม
จากการสัมภาษณ์ผู้อยู่ในเหตุการณ์ พวกเขาเล่าว่า มีผู้เอี๊ยะติกาฟอยู่ในมัสยิดซึ่งทำเป็นปกติในช่วงท้ายของเดือนรอมฎอน สำหรับมุสลิมในเยรูซาเล็ม มัสยิดอัลอักซอ เป็นสัญลักษณ์อันเป็นที่รักของมุสลิม และเป็นสถานที่ที่พวกเขาต้องการมาปฏิบัติศาสนกิจในช่วงเดือนรอมฎอน
อามีร มารัคฮา วัย 29 ปี จากย่านซิลวาด ในเยรูซาเล็ม เล่าว่า เขามาที่มัสยิดอัลอักซอทุกวัน และอยู่หลายคืนในเดือนรอมฎอน “ถ้ามีคนอยู่ที่มัสยิดมาก ๆ การจู่โจมก็จะน้อยลง บางคนต้องการอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องมัสยิดจากการบุกจู่โจม”
บัครฺ โอวาอิส นักศึกษามหาวิทยาลัยบิรเซอิต วัย 24 ปี อยู่ในมัสยิดเพื่อร่วมเอี๊ยะติกาฟในเดือนรอมฎอน พร้อมกับผู้มาละหมาดตะรอเวี๊ยะฮ์คนอื่น ๆ เขาเล่าว่า มีผู้ปิดประตูขังพวกเขาไว้ข้างใน ในขณะที่กองกำลังอิสราเอลขึ้นไปยืนบนหลังคามัสยิด และใช้ลำโพงประกาศให้ผู้มาละหมาดที่อยู่ด้านในออกจากมัสยิดแต่โดยดี มิฉะนั้น จะต้องมีการใช้กำลังบังคับให้ออกมา
เมื่อถึงจุดนี้ คนหนุ่ม-สาวที่อยู่ในมัสยิดตัดสินใจที่จะต่อต้าน เนื่องจากเขาไม่ต้องการให้การเอี๊ยะติกาฟถูกขัดจังหวะ เพียงเพราะตำรวจอิสราเอลต้องการเคลียร์พื้นที่ สำหรับให้ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวขึ้นมาทัวร์บริเวณมัสยิดในตอนเช้า หลังจากนั้นตำรวจอิสราเอลจึงบุกเข้ามา
“พวกเขาพังหน้าต่างมัสยิด และเริ่มขว้างระเบิดช็อตใส่พวกเรา ซึ่งข้างในมีทั้งเด็กเล็ก คนแก่ และผู้หญิง มีเจ้าหน้าที่อีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาทางประตู เริ่มยิงแก๊สน้ำตา ยิงระเบิดช็อต และกระสุนยางใส่ประชาชน”
“พวกเขาโจมตีผู้คน ทุบตีด้วยไม้ที่หัว มีคนเป็นลมเพราะหายใจไม่ออก บางคนเลือดไหลโทรม จากนั้นพวกเขาก็เริ่มจับกุมเรา คนจำนวนมากถูกพาตัวออกไป ตำรวจสบถใส่เราตลอดเวลา ผลักเราขึ้นรถและพาไปยังสถานีตำรวจในอะตารอต พวกเราถูกบังคับให้นอนบนพื้น โดยถูกมัดมือไพล่หลังไว้”
“ต้องมีผู้ถูกคุมขัง 400-500 คน พวกเขาเอาชื่อเราไปแปะบนสติกเกอร์ที่มีเบอร์ แล้วเอามาติดที่ตัวเรา แล้วเรียกเราด้วยเบอร์เหล่านั้น เหมือนเราไม่ใช่คน”
บัครฺ โอวาอิส และชาวปาเลสไตน์คนอื่น ๆ ที่ถูกจับกุมไปพร้อม ๆ กัน ถูกขึ้นบัญชีในรายชื่อที่ห้ามเข้ามัสยิดอัลอักซอ เป็นเวลา 1 สัปดาห์
ที่มา: www.aljazeera.com