มัสยิดชิงเจิ้น: มรดกแห่งศรัทธาและวัฒนธรรมในซีอาน MUSLIMTHAIPOST

มัสยิดชิงเจิ้น: มรดกแห่งศรัทธาและวัฒนธรรมในซีอาน

มัสยิดชิงเจิ้น: มรดกแห่งศรัทธาและวัฒนธรรมในซีอาน

ในวันศุกร์ ที่ 6 ธันวาคม 2567 คณะได้เดินทางจากการไปเยือนสุสานทหารจินซี (ไว้จะเล่าให้ฟัง) เราก็กลับเข้ามาในเมืองซีอาน โดยโจทย์ของเราที่มอบให้กับไกด์(ชัวคราว,เท็กซีมุสลิม) คือ ไปละหมาดวันศุกร์ และเดินเล่นในชุมชนมุสลิม พร้อมกับเมนูพื้นบ้านสุดแสนอร่อยที่สุด และได้คำตอบว่าจะพาไปมัสยิดหลังแรกของซีอาน อายุกว่า 1,300ปี “แอะ! มัสยิดกลางซีอาน อายุแค่ 1,000 ปี ทีมงานเราก็น้ำตาไหลพรากแล้ว”

ความประทับใจแรก

ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะจากปากซอย คราครำไปด้วยอาหารพื้นถิ่น ที่แต่ละร้านแตกต่างกัน ไม่ซ้ำ สองข้างทาง (เราสังเกตุ บางเหตุที่นักท่องเที่ยวมากๆ ทุกร้านแทบจะเมนูเดี่ยวกัน ขายเหมือนกัน ราคาเดึ่ยวกัน) , ใช้แล้ว นี้แหละที่ตามหามานอน ซอยชุมชนมุสลิมจีนที่แทร์ทรู

มัสยิดชิงเจิ้น ตั้งอยู่ในย่านชุมชนมุสลิมใจกลางเมืองซีอาน มณฑลส่านซี ประเทศจีน ถือเป็นหนึ่งในมัสยิดที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดในประเทศจีน และยังคงเป็นศูนย์กลางของชุมชนมุสลิมในพื้นที่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มัสยิดแห่งนี้มีความโดดเด่นทั้งในด้านสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงการผสมผสานอันลงตัวระหว่างศิลปะจีนและอิสลาม ซึ่งผนังมัสยิดเป็นภาพสวยงามแต่ก็เริ่มเลือนลางไปตามกาลเวลา (screen wall)

ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน

มัสยิดชิงเจิ้นถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 742 ในยุคราชวงศ์ถัง ซึ่งเป็นยุคที่ซีอาน (หรือที่รู้จักในอดีตว่า ฉางอาน) เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมบนเส้นทางสายไหม มัสยิดแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของการมาถึงของศาสนาอิสลามในจีน และเป็นจุดเริ่มต้นของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอิสลามและจีนที่ปรากฏในทุกซอกมุมของสถานที่แห่งนี้

มัสยิดได้รับการบูรณะหลายครั้งในช่วงราชวงศ์หมิงและชิง ทำให้สถานที่แห่งนี้ยังคงความสวยงามและความสมบูรณ์ของโครงสร้างเดิมไว้ได้ดี ปัจจุบัน มัสยิดชิงเจิ้นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศจีน

สถาปัตยกรรมที่ผสมผสาน

ทางเข้าจะเป็นถนนซอย (กระทัดรัด) สิ่งที่ทำให้มัสยิดชิงเจิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือการออกแบบที่รวมเอาความงามของศิลปะจีนเข้ากับศิลปะอิสลาม ตัวอาคารมีหลังคาแบบจีนที่มีลวดลายละเอียดอ่อน พร้อมเสาที่แกะสลักอย่างประณีต ส่วนภายในยังคงความเรียบง่ายและสื่อถึงความสงบซึ่งเป็นคุณลักษณะของศาสนาอิสลาม

บริเวณลานมัสยิดมีการจัดวางองค์ประกอบตามรูปแบบของศิลปะจีน เช่น การใช้ไม้และหินในการตกแต่ง พร้อมสวนสวยที่ให้ความรู้สึกสงบและร่มรื่น นอกจากนี้ ยังมีหินแกะสลักลวดลายอาหรับและจีนที่สะท้อนถึงการหลอมรวมวัฒนธรรมทั้งสอง และมีป้ายหินที่สลักภาษาจีน โดยใครๆก็อ่านเข้าใจได้ด้วย google translate

ความสำคัญในชุมชน

มัสยิดชิงเจิ้นไม่เพียงเป็นสถานที่ละหมาดของมุสลิม แต่ยังเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมในชุมชน ผู้มาเยือนสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชุมชนมุสลิมในซีอาน และสัมผัสความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างคนในชุมชนกับศาสนาอิสลาม เชื่อหรือไม่ว่า “อัสลามมุอาลัยกุม เป็นคำทักทายที่ยิ่งใหญ่ทรงคุณค่ายิ่ง“ รอยยิ้มจะปรากฎผ่านสายตาและใบหน้าทันที พร้อมกับ (ไทกั้ว=คนไทย) มิตรภาพแบบฉบับมุสลิมบานสพั่ง จากเจ้าของบ้าน ”มุสลิมซีอาน“

ไม่ควรพลาด

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนมัสยิดชิงเจิ้นจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และความงดงามของวัฒนธรรมจีน-อิสลาม ทั้งยังสามารถเดินสำรวจย่าน Muslim Quarter ซึ่งเต็มไปด้วยอาหารพื้นเมืองและสินค้าหัตถกรรมที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชุมชนมุสลิม ซึ่งย่านดังกล่าวเหมาะสำหรับเดินกลางวัน มีร้านอาหารพื้นถิ่นมากมาย

มัสยิดชิงเจิ้นเป็นสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างศรัทธา ประวัติศาสตร์ และศิลปะได้อย่างลงตัว เป็นจุดหมายที่นักเดินทางไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเมืองซีอาน เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ทางศาสนา แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในประวัติศาสตร์ของจีน

”อิ่มบุญ อิ่มตา อิ่มท้อง อิ่มประวัติศาสตร์ อิ่มมิตรภาพ“ ณ มัสยิดชิงเจ้น ซีอาน

ปล.

1. ช่วงเดือน ธันวาคม 2567 หนาวมาก เกือบติดลบ

2. มัสยิดมีหลายชื่อมาก แอบสับสนเล็กน้อย

3. มีแต่ภาษาจีน ชื่ออังกฤษ-อาหรับ หาไม่เจอ

4. มีลักษณะรูปแบบสถาปัตยกรรมมัสยิดคล้ายกันมากซึ่งมัสยิดแห่งนี้ (เคลมว่า) เก่าแก่กว่ามัสยิดใดๆในซีอาน มีประวัติถูกบูรณะโดย“เจิ้งเหอ”เมื่อประมาณ500ปีก่อนด้วย

หมายเหตุ!! ท่านผู้ใดมีข้อมูล สามารถเพิ่มเติมได้ เพื่อให้สาระดังกล่าวนี้สร้างคุณค่ามากยิ่งขึ้น หากผิดพลาดเรื่องชื่อเมื่อเขียนเป็นภาษาไทย ก็ข้ออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ (รวบรวมข้อมูล)