
ศึกอินเดีย-ปากีฯ ปะทะร้อน! ขีปนาวุธพุ่ง เครื่องบินร่วง
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ศึกอินเดีย-ปากีฯ ปะทะร้อน! ขีปนาวุธพุ่ง เครื่องบินร่วง
ศึก อินเดีย-ปากี เริ่มจากอินเดียยิงขีปนาวุธข้ามแดน ส่วนปากีประกาศว่า ยิงเครื่องบินรบอินเดียตก
อินเดียโจมตีปากีสถาน และแคว้นแคชเมียร์ของปากีสถาน ในวันที่ 7พ.ค.68 และปากีสถานระบุว่า ได้ยินเครื่องบินรบของอินเดียตก 5 ลำ นับเป็นการต่อสู้ที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 20 ปี ระหว่างเพื่อนบ้านที่มีอาวุธนิวเคลียร์ทั้งคู่
อินเดียระบุว่า ได้โจมตีพื้นที่ “โครงสร้างพื้นฐานก่อการร้าย” ของปากีสถาน 9 แห่ง ซึ่งบางแห่งเชื่อมโยงกับการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธต่อนักท่องเที่ยวชาวฮินดู ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 26 ราย เมื่อเดือนที่ผ่านมา
ปากีสถาน ระบุว่า สถานที่ 6 แห่งของประเทศตกเป็นเป้าหมายการโจมตี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย แต่ไม่มีแห่งใดที่เป็นที่ซ่องสุมของกลุ่มติดอาวุธ
แหล่งข่าวด้านกลาโหมของอินเดีย กล่าวกับสื่อรอยเตอร์ ว่า กองกำลังอินเดียโจมตีสำนักงานใหญ่ของกลุ่มติดอาวุธ Jaish-e-Mohammed และกลุ่ม ลัชการ์ -อี-ตัยบา และ กระทรวงกลาโหมอินเดียออกแถลงการณ์ระบุ ว่า อินเดียได้แสดงให้เห็นถึงความยับยั้งชั่งใจอย่างมากในการเลือกเป้าหมาย และวิธีการโจมตี
ปากีสถาน ระบุว่า ขีปนาวุธของอินเดียโจมตีสถานี่ 3 แห่ง และโฆษกกองทัพกล่าวกับสื่อรอยเตอร์ ว่า เครื่องบินอินเดีย 5 ลำถูกยิงตก ถึงแม้คำกล่าวอ้างดังกล่าวจะยังไม่ได้รับการยืนยันจากอินเดีย แต่รัฐบาลท้องถิ่น 4 แห่งในแคชเมียร์ของอินเดีย กล่าวกับสื่อ ว่า เครื่องบินรบ 3 ลำ ได้ตกลงในพื้นที่ต่าง ๆ ของภูมิภาคหิมาลัยในช่วงกลางคืน และนักบินได้รับความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลแล้ว
อาเหม็ด ชารีฟ ซอดรี โฆษกกองทัพปากีสถาน ระบุว่า “ภารกิจทั้งหมดนี้ถือเป็นมาตรการป้องกัน ปากีสถานยังคงเป็นรัฐที่มีความรับผิดชอบมาก อย่างไรก็ตาม เราจะดำเนินการทุกขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องเกียรติยศ ความสมบูรณ์ และอธิปไตยของปากีสถาน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม”
ปากีสถานเรียกการโจมตีดังกล่าว ว่าเป็น “การกระทำสงครามที่โจ่งแจ้ง” และกล่าวว่า ได้แจ้งให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทราบว่า ปากีสถานสงวนสิทธิ์ในการตอบโต้อย่างเหมาะสมต่อการรุกรานของอินเดีย
ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนกระสุนอันรุนแรง และการยิงปืนหนักข้ามพรมแดนส่วนใหญ่ของพวกเขาในแคว้นแคชเมียร์
อินเดีย มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู และปากีสถานที่นับถือศาสนาอิสลาม ได้สู้รบกัน 2 ใน 3 ครั้ง นับตั้งแต่ที่แคว้นแคชเมียร์ ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมได้รับเอกราชในปี 2490 ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายอ้างสิทธิ์เต็มพื้นที่ แต่ต่างฝ่ายต่างสามารถควบคุมได้บางส่วน
นับตั้งแต่การหยุดยิงในปี 2546 ซึ่งทั้งสองประเทศกลับมาสู้รบกันอีกครั้งในปี 2564 การโจมตีแบบกำหนดเป้าหมายระหว่าง 2 ประเทศเพื่อนบ้าน เกิดขึ้นน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโจมตีของอินเดียต่อพื้นที่ของปากีสถาน นอกเขตแคชเมียร์ของปากีสถาน
แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเสี่ยงที่จะบานปลายนั้นสูงกว่าในอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากการโจมตีของอินเดีย ซึ่งพวกเขาเรียกว่า “ปฏิบัติการซินดอร์ – Operation Sindoor” มีความรุนแรง (ซินดอร์ เป็นคำในภาษาฮินดี ที่แปลว่า สีแดงชาด ซึ่งเป็นผงสีแดงที่ผู้หญิงฮินดูแต้มไว้บนหน้าผาก เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่าแต่งงานแล้ว)
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวถึงการโจมตีของอินเดีย ว่า “เป็นความน่าละอาย” และเสริมว่า “ฉันหวังว่ามันจะจบลงอย่างรวดเร็ว” ส่วนเลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้มีการอดกลั้นอย่างสูงสุดต่อการตัดสินใจใช้กำลังทหาร ของทั้ง 2 ประเทศ
ที่มา: www.english.alarabiya.net
https://news.muslimthaipost.com/news/39115
บทความที่น่าสนใจ
- นายกฯ มาเลเซียเน้น! การพัฒนา-ความก้าวหน้าต้องยึดหลักคุณธรรมและศีลธรรม
- ผู้นำอินโดนีเซียเยือนอียิปต์ ยกระดับสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนยุทธศาสตร์
- ฮามาสไม่รู้ชะตาตัวประกัน คาดเป็นเหยื่อโดนถล่ม
- มัลดีฟส์ปิดเกาะ! ไม่ต้อนรับอิสราเอล ต้านฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
- มาเลเซียเตรียมจัดประชุมใหญ่ อาเซียน-GCC-จีน สร้างประวัติศาสตร์ใหม่!
- อิสราเอลเตรียมเด้ง นักบินที่ลงชื่อยุติสงครามกาซา
- ไม่ปราณี! เด็กหนุ่มอเมริกัน-ปาเลสไตน์ถูกอิสราเอลสังหาร
- มุฟตีใหญ่โอมานส่งคำยินดี! ฮูซีย์จัดหนักอิสราเอล
- จำคุก 53 ปี! คดีฆ่าเด็กอเมริกันสายเลือดปาเลสไตน์
- ธงปาเลสไตน์เข้าได้! ยูโรวิชั่นที่สวิสฯ ปรับกฎใหม่เอื้อผู้ชม
- อิสราเอลผวา! เยเมนยิงจรวดตกใกล้สนามบินหลัก
- อิสราเอลเรียกทหารเสริมหมื่นคน ถล่มฉนวนกาซา
- รวมพลังทั่วประเทศ! พรรคศาสนาปากีสถานปลุกม็อบเพื่อปาเลสไตน์