ผู้นำมุสลิมบรัสเซลส์เสียชีวิต ร่วมใจละหมาดขอพรหลายพันจนต้องปิดถนน แต่พวกอคติกลับแสดงถึงความเกลียดชังอย่างน่าอนาถใจ
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ผู้นำมุสลิมบรัสเซลส์เสียชีวิต ร่วมละหมาดหลายพันจนต้องปิดถนน
ผู้นำมุสลิมบรัสเซลส์เสียชีวิต ร่วมใจละหมาดขอพรหลายพันจนต้องปิดถนน แต่พวกอคติกลับแสดงถึงความเกลียดชังอย่างน่าอนาถใจ...
ศูนย์ต่อต้านอคติและการเลือกปฏิบัติของเบลเยี่ยม กำลังสอบสวนรายงานที่ระบุว่า มีผู้เผยแพร่ข้อความที่แสดงถึงความเกลียดชัง ต่อการที่ชาวมุสลิมราว 5,000 คน รวมตัวกันละหมาดญะนาซะฮ์ ที่มัสยิด Molenbeek เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างน้อย 7 คน ร้องเรียนว่า มีผู้เผยแพร่ข้อความที่แสดงถึงความเกลียดชัง เช่น “น่าจะขับรถทับพวกมุสลิมที่มาร่วมละหมาด” และ “ขว้างระเบิดใส่มันให้หมด” โดยมีการเผยแพร่ภาพแถวละหมาดของมุสลิมบนถนนหน้ามัสยิด และเขียนข้อความว่า “นี่เป็นภาพสุดหลอน”
ราชิด แฮดเดค (Rachid Haddach) ซึ่งเสียชีวิตขณะมีอายุได้ 49 ปี เป็นทั้งนักบรรยายศาสนา ครู และผู้นำชุมชนซึ่งมักจะทำงานอาสาสมัครที่โรงเรียน และมัสยิดอย่างสม่ำเสมอ เขามีชื่อเสียงในฐานะเป็น “พี่ใหญ่” ของบรรดาเยาวชนในบรัสเซลส์ โดยมีชาวมุสลิมหลายพันคนมาร่วมละหมาดขอพรให้กับเขา จนตำรวจต้องปิดการจราจรเพราะแถวละหมาดที่ล้นออกมานอกมัสยิด
โอซามะ คาเรน ซัยนี หนึ่งในผู้ที่รู้จักราชิด เล่าว่า เขามักจะสอนว่า “อย่าตอบโต้ความเกลียดชังด้วยความเกลียดที่ยิ่งกว่า” ราชิด ยังทำ vlogger เผยแพร่ทาง YouTube ซึ่งมีผู้ติดตามเป็นมุสลิมจากทั่วโลกถึง 60,000 คน
ราชิด แฮดเดค (Rachid Haddach)
ฝ่ายขวาจัดกล่าวหาว่า ราชิดเป็นนักบรรยายธรรมที่มีแนวคิดซาลาฟีย์ แต่เขาได้ปฏิเสธในเรื่องนี้ และยังมีผู้นำกลุ่มซาลาฟีย์ออกมาชี้แจงว่า ราชิดไม่ได้เป็นพวกเดียวกับเขา แต่เป็นศัตรูของขบวนการด้วยซ้ำ
ข้อหาเผยแพร่ข้อความที่แสดงถึงความเกลียดชัง ความรุนแรง อคติ และการเลือกปฏิบัติในเบลเยี่ยม มีบทลงโทษจำคุกระหว่าง 1 เดือน ถึง 1 ปี และปรับเงิน 1,000 ยูโร
ข้อมูลเพิ่มเติม : ราชิด แฮดเดค เกิดและเติบโต ที่เมือง Molenbeek ในเบลเยี่ยม จากครอบครัวชาวโมร็อกโก มีบทบาทสำคัญในการสอนคนหนุ่มสาวมุสลิมให้ต่อต้านความรุนแรง เขาเคยดะอฺวะอฺให้ Virginie Leblicq นักจิตวิทยาชาวเบลเยี่ยมเข้ารับอิสลามในปี 2550 เขาเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง หลังจากที่ล้มป่วยมาระยะหนึ่ง ศพถูกฝังที่สุสานรวมของศาสนิกต่าง ๆ ในบรัสเซลส์ ตามที่เขาได้สั่งเสียไว้
ที่มา: www.brusselstimes.com