ประกาศ! ผ่อนปรนให้ละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด ต้องได้รับอนุญาตผวจ. (อ่านให้เข้าใจ)

สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์:  ประกาศ! ผ่อนปรนให้ละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด ต้องได้รับอนุญาตผวจ. (อ่านให้เข้าใจ)

สำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศแนวทางการละหมาดในช่วงโควิดว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ทั้งนี้เนื่องด้วยสถานะการณ์ของแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน ดังนั้น การที่มัสยิดไหนจะทำการละหมาดได้นั้น ต้องได้รับการอนุมัตจากผู้ว่าราชการจังหวัด(ผวจ.) หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องโรคระบาดเป็นสำคัญ (คิดจะเปิด ก็เปิดตามใจ ไม่ได้เด็ดขาด ผิดกฏหมาย)

มุสลิมจร้า คิดให้มาก อย่าเอา “อยาก เป็นผู้นำ”

เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2563 สำนักจุฬาราชมนตรี ออกประกาศเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 โดยมีสาระสำคัญคือ การผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประกาศงดการละหมาดญะมาอะห์และการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะฮ์) ที่มัสยิดเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะมีสภาวการณ์ในทางที่ดีขึ้น โดยให้สัปปุรุษละหมาดดุฮ์รี 4 รอกาอัต ที่บ้านแทน

ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง จึงพิจารณาเห็นควรผ่อนปรนให้มีการปฏิบัติศาสนกิจละหมดวันศุกร์ (ญุมอะห์) โดยให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดใช้ดุลยพินิจร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด โดยขอคำปรึกษาจากผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัด ในการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) เพื่อให้เป็นไปตามประกาศจุฬาราชมนตรี ฉบับนี้และมาตรการหรือคำแนะนำของทางราชการเกี่ยวกับการป้องกันโรค

แนวทางปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์)

1. สำหรับมัสยิด

1.1 ให้กรรมการอิสลามประจำมัสยิด หรือหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่มาตรวจวัดอุณภูมิก่อนเข้ามัสยิด

1.2 จัดวางเจลล้างมือแอลกอฮอล์ บริเวณประตูทางเข้ามัสยิด

1.3 งดใช้บ่อน้ำ (กอเลาะห์) หรืออ่างใหญ่ร่วมกัน

1.4 ทำความสะอาดพื้นมัสยิดก่อนและหลังการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) ทุกครั้ง และไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ โดยให้เปิดหน้าต่าง ผ้าม่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

1.5 จัดเครื่องหมายจุดละหมาดที่สามารถระบุตำแหน่งได้ โดยให้เว้นระยะห่างแต่ละจุด 1.50 - 2 เมตร

1.6 ควบคุมทางเข้าออกมัสยิด และจัดระเบียบระยะห่างขณะเดินเข้าและเดินออกจากมัสยิดหลังเสร็จสิ้นการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์)

2. สำหรับ ผู้เข้าร่วมปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์(ญุมอะห์)

2.1 ให้อาบน้ำละหมาดจากที่บ้าน

2.2 ให้ใช้ผ้าปูละหมาด (ผ้าชะญาดะห์) ส่วนตัว โดยนำมาจากบ้าน

2.3 ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์

2.4 สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติศาสนกิจ

2.5 งดการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และการสัมผัสแก้ม โดยให้ยกมือพร้อมกล่าวสลามเท่านั้น

2.6 เด็กและสตรีให้งดการร่วมละหมาดวันศุกร์(ญุมอะห์) ที่มัสยิด

2.7 หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก แม้จะมีอาการไม่มาก ให้งดการไปร่วมละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด

ขณะที่การปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์(ญุมอะห์) ให้เว้นระยะห่างระหว่างแถวและในแถว 1.50 - 2 เมตร และให้ยืนตามจุดที่มัสยิดได้จัดทำเครื่องหมายไว้ ให้กระชับเวลาในการละหมาดวันศุกร์(ญุมอะห์) นับตั้งแต่อะซาน คุตบะห์และละหมาด ไม่เกิน 20 นาที

ทั้งนี้ ยังคงให้งดการจัดกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมอื่นที่มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มทุกประเภท ตลอดจนการเลี้ยงละศีลอด พร้อมขอความร่วมมือประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ได้แจ้งไปยังอิหม่ามทุกมัสยิดในสังกัดให้ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ตามประกาศจุฬาราชมนตรีต่อไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติหรือมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

• มัสยิดในโตรอนโต เป็นครั้งแรก อนุมัติให้อะซานผ่านเครื่องขยายเสียง
• 'นับศพไม่ถ้วน' อาสาสมัครชุมชนมุสลิมพูดถึง เหยื่อโควิด-19 เมื่อเริ่มเดือนรอมฎอน
• เดือนรอมฎอน 2563 ชาวมุสลิมทั่วโลกอยู่อย่างไรในวิกฤต “COVID-19”
• ด่วนมาก! แจงขอผ่อนผันประกาศจุฬาราชมนตรี ละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด
• COVID-19 จุฬาราชมนตรี ออกมาตรการเข้ม ช่วงรอมฎอน
• งดละหมาดวันศุกร์ เกิน 3 ครั้งได้ คำชี้ขาด สำนักจุฬาราชมนตรี