“วันสากลแห่งการต่อสู้กับโรคเกลียดกลัวอิสลาม” เลขาธิการ UN เรียกร้องขจัดความเกลียดชังต่อมุสลิม


สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: “วันสากลแห่งการต่อสู้กับโรคเกลียดกลัวอิสลาม” เลขาธิการ UN เรียกร้องขจัดความเกลียดชังต่อมุสลิม

“วันสากลแห่งการต่อสู้กับโรคเกลียดกลัวอิสลาม” ซึ่งกำหนดให้ตรงกับวันที่ 15 มีนาคม ของทุกปี โดยปีนี้นับเป็นครั้งแรก นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ทวีตข้อความเรียกร้องให้ดำเนินการขจัดพิษของความเกลียดชัง และการต่อต้านมุสลิม

“การเลือกปฏิบัติลดทอนความเป็นมนุษย์ของพวกเรา เราต้องยืนหยัดต่อสู้กับมันทั้งในวันนี้และทุกวัน และต้องตอบโต้สิ่งที่ทำให้เราแตกแยก ด้วยการยืนยันความเป็นมนุษย์ร่วมกัน”

“วันสากลแห่งการต่อสู้กับโรคเกลียดกลัวอิสลาม” เลขาธิการ UN เรียกร้องขจัดความเกลียดชังต่อมุสลิม

ย้อนไปเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ได้รับรองด้วยมติเอกฉันท์ที่เสนอโดยปากีสถาน ในนามขององค์กรความร่วมมืออิสลาม (OIC) โดยให้ถือว่าวันดังกล่าว เป็น “วันสากลแห่งการต่อสู้กับโรคเกลียดกลัวอิสลาม” และถือเป็นครั้งแรกที่มีการนำมติดังกล่าวมาปฏิบัติ หลังจากได้รับการอนุมัติจากองค์การสหประชาชาติ

ทั้งนี้ เพื่อมุ่งสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์อิสลาโมโฟเบีย ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมตะวันตก และมีหลายปัจจัยที่มีส่วนเติมเชื้อไฟเพื่อให้ปรากฏการณ์นี้เพิ่มขึ้น

เว็บไซต์ของสหประชาชาติ รายงานโดยผู้รายงานพิเศษ (SR) ระบุเกี่ยวกับเสรีภาพในการนับถือศาสนาหรือความเชื่อ และบ่งชี้ว่า ความระแวงสงสัย การเลือกปฏิบัติ และความเกลียดชังต่อชาวมุสลิม พุ่งขึ้นสูงถึงระดับที่เรียกว่า เป็นการแพร่ระบาด

ในประเทศที่มุสลิมเป็นชนกลุ่มน้อย พวกเขามักเผชิญกับการเลือกปฏิบัติในการเข้าถึงสินค้าและบริการ การหางานทำ และการศึกษา ในบางประเทศพวกเขาถูกปฏิเสธไม่ให้ได้รับสัญชาติ หรือสถานะการเข้าเมืองตามกฎหมาย เนื่องจากพวกเขาถูกมองว่า เป็นตัวแทนของภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ

ที่มา: www.gulf-times.com 

https://news.muslimthaipost.com/news/37155

อัพเดทล่าสุด