รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ-อิหร่าน หารือกันในช่วงเดือนรอมฎอน และจนถึงขณะนี้ ทั้ง 2 รัฐมนตรี ฯ ได้เจรจากันผ่านทางโทรศัพท์ 2 ครั้งในรอบไม่กี่วัน
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ-อิหร่าน นัดพบช่วงรอมฎอน
สำนักข่าวทางการ SPA ของซาอุดิอาระเบีย รายงานเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา ว่าเจ้าชายฟัยซาล บิน ฟาร์ฮารน อัล-ซาอูด รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย และ นายฮอสเซน อามีรอับโดลลาเฮียน ได้ตกลงร่วมพบปะ หารือกันในช่วงเดือนรอมฎอน และจนถึงขณะนี้ ทั้ง 2 รัฐมนตรี ฯ ได้เจรจากันผ่านทางโทรศัพท์ 2 ครั้งในรอบไม่กี่วัน
เจ้าชายฟัยซาล บิน ฟาร์ฮารน อัล-ซาอูด รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศซาอุดิอาระเบีย
SPA ยังรายงานว่า ในระหว่างการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ มีการหารือประเด็นทั่วไปหลายประการ เกี่ยวกับข้อตกลงไตรภาคีที่ลงนามในสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งสองรัฐมนตรียังตกลงที่จะจัดการประชุมทวิภาคี ก่อนที่เดือนรอมฎอนจะสิ้นสุดลงประมาณวันที่ 20 เมษายน ที่จะถึงนี้
ต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา อิหร่านและซาอุดิอาระเบีย ตกลงที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ หลังจากหลายปีของความเป็นปรปักษ์ ที่คุกคามเสถียรภาพและความมั่นคงในอ่าว ซึ่งความไม่มั่นคงดังกล่าวจุดชนวนความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ตั้งแต่เยเมนไปจนถึงซีเรีย
รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ฮอสเซน อามีร อับโดลลาเฮียน
ข้อตกลงระหว่างมหาอำนาจซุนนี และคู่แข่งชีอะฮ์อิหร่าน ที่มีจีนเป็นผู้ประสานงาน ได้รับการประกาศหลังจากการเจรจาที่ไม่เปิดเผยที่กรุงปักกิ่ง ระหว่างเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงจากทั้ง 2 ประเทศ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะได้ผลประโยชน์จากการลดความตึงเครียด โดยอิหร่านต้องการตัดทอนความพยายามของสหรัฐอเมริกาที่จะโดดเดี่ยวอิหร่านจากภูมิภาค ในขณะที่ซาอุดิอาระเบีย มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเศรษฐกิจ
ซาอุดิอาระเบียตัดความสัมพันธ์กับอิหร่านในปี 2016 (2559) หลังจากสถานทูตซาอุดิอาระเบีย ในกรุงเตหะราน ถูกผู้ประท้วงบุกเข้าโจมตี จากความแค้นเคืองที่อุละมะอฺชีอะฮ์ ที่อาศัยอยู่ในซาอุดิอาระเบียถูกตัดสินประหารชีวิต ซาอุดิอาระเบียกล่าวโทษอิหร่านสำหรับการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในปี 2019 (2562) ด้วยขีปนาวุธและโดรน เช่นเดียวกับการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันในน่านน้ำอ่าว ซึ่งอิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหา
ขบวนการฮูซีย์ ที่เป็นคู่ขัดแย้งกับรัฐบาลเยเมน แต่เป็นมิตรกับอิหร่าน ได้ยิงขีปนาวุธและส่งโดรนข้ามพรมแดนไปยังซาอุดิอาระเบีย และในปี 2022 (2565) ได้ขยายการโจมตีไปยังเอมิเรตส์ เนื่องจากซาอุดิอาระเบียเป็นผู้นำกลุ่มพันธมิตรที่พยายามเข้าไปขับไล่กลุ่มฮูซีย์ออกจากเยเมน
ที่มา: www.reuters.com