มัสยิดอัล-เราะฮ์มะฮ์ ไม่ได้เป็นเพียงมัสยิดแห่งแรกและแห่งเดียวในกรุงเคียฟ แต่ยังเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย อันที่จริงแล้ว มัสยิดแห่งนี้ถูกพิจารณาว่า
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : อัร-เราะฮ์มะฮ์ มัสยิดแห่งแรกและแห่งเดียวในกรุงเคียฟ
อัร-เราะฮ์มะฮ์ มัสยิดแห่งแรกและแห่งเดียวในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน
มัสยิดอัล-เราะฮ์มะฮ์ (Ar Rahma mosque) (เป็นภาษาอาหรับ แปลว่า ความเมตตา) ไม่ได้เป็นเพียงมัสยิดแห่งแรกและแห่งเดียวในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน แต่ยังเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย อันที่จริงแล้ว มัสยิดแห่งนี้ถูกพิจารณาว่า เป็นมงกุฎแห่งอัญมณีของสถาปัตยกรรมอิสลามยุคใหม่
Ar Rahma mosque
มัสยิดแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาคารที่เกี่ยวกับอิสลามขนาดใหญ่ บนภูเขาชเชคาวีตเซีย (Shchekavytsia Mountain) สร้างขึ้นระหว่างปี 1996 – 2012 ตัวอาคารตั้งอยู่ในจุดที่โดดเด่น ถัดจากสุสานโบราณที่ฝังร่างของชาวมุสลิม ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มาตั้งแต่ยุคแรก
การเปิดตัวของมัสยิดอัล-เราะฮ์มะฮ์ เป็นเหตุการณ์สำคัญยิ่งสำหรับชาวมุสลิมในยูเครน เนื่องจากมีการรอคอยให้มีมัสยิดแห่งแรกมานานกว่า 100 ปี ความพยายามที่จะสร้างมัสยิดเริ่มมาตั้งแต่ปี 1897 ซึ่งตามข้อมูลของทางการขณะนั้น ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เพียง 1,759 คน จากจำนวนประชากรทั้งสิ้นประมาณ 100,000 คน
ในปี 1913 เมื่อแผนการก่อสร้างพร้อมและมีการวางศิลาฤกษ์ก้อนแรก สงครามโลก ครั้งที่ 1 ก็ปะทุขึ้น ด้วยการปฏิวัติของพวกบอลเชวิค และสงครามโลก ครั้งที่ 2 ทำให้ความฝันที่จะมีมัสยิดในเมืองหลวงของยูเครน ต้องเลื่อนออกไปเป็นเวลานาน การก่อสร้างกลับมาดำเนินการต่อหลังจากที่ยูเครนได้รับเอกราช มีการมอบที่ดินสำหรับการก่อสร้าง มีการเตรียมการด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และการทำงานด้านเอกสารโครงการ ในที่สุด ความปรารถนาอันยาวนานก็บรรลุผลสำเร็จ การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี 1996 (2539) ใช้เวลานาน 16 ปี จึงแล้วเสร็จ
Ar Rahma mosque
มีการกำหนดขั้นตอนของการก่อสร้างมัสยิด ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากมุสลิมทุกวัย และจากทุกกลุ่มสังคม รวมทั้งเงินบริจาคจำนวนมากจากเอกอัครราชทูต ของประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม
นาย Oleksandr Komarovsky หนึ่งในสถาปนิกชื่อดังของเมือง ซึ่งเป็นผู้ออกแบบจัตุรัส Independence Square เป็นผู้เตรียมโครงการด้านวิศวกรรม แต่หลังจากที่เขาเสียชีวิต เพื่อนร่วมงานของเขา คือ สถาปนิก Serhiy Babushkin เป็นผู้ดำเนินการต่อ โดยมี ริดวาน และ โฆจา อะหมัด สถาปนิกมุสลิมที่มีชื่อเสียง ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาระหว่างการเตรียมโครงการ
Ar Rahma mosque
มัสยิดสร้างครอบคลุมพื้นที่ 3,200 ตารางเมตร สามารถจุคนได้ประมาณ 3,000 คนวัสดุตกแต่งถูกส่งมาจากประเทศอาเซอร์ไบจาน ส่วนพรมปูห้องโถงละหมาด ที่มีพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ถูกส่งมาจากประเทศตุรเคีย มัสยิดมีห้องโถง 3 ห้อง ห้องเหล่านั้นประกอบไปด้วยเสากลม 24 เสา
ห้องโถงแรกตั้งอยู่ตรงกับยอดโดม ที่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เมตร สูง 6 เมตร ด้านบนของโดมเป็นรูปจันทร์เสี้ยว ห้องโถงที่ 2 อยู่ตรงกับยอดโดมที่อยู่ต่ำกว่ายอดโดมแรก โดมนี้มีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลาง 22 เมตร และสูงประมาณ 3 เมตร
Ar Rahma mosque
นอกจากโดมที่กล่าวถึงทั้ง 2 โดมนี้แล้ว มัสยิดนี้ยังมีโดมอีก 7 โดม ซึ่งมีความสูงเฉลี่ยจาก 1 ถึง 2.5 เมตร ทุกโดมปกคลุมด้วยทองแดง หน้าต่างที่อยู่ใต้โดมหลักตกแต่งด้วยกระจกสี มัสยิดมีเมี๊ยะฮ์รอบ 2 ชุด (พื้นที่เว้าเข้าไปในผนัง ระบุทิศตรงไปยังนครมักกะฮ์ ซึ่งมุสลิมต้องหันหน้าไปเมื่อละหมาด) มีมิมบัร (แท่นแสดงธรรม) 2 ชุด และที่ลานมัสยิดด้านนอก มีหออะซานสูง 27 เมตร โดยมีบันไดเวียน 118 ขั้น สำหรับขึ้นสู่ด้านบนอยู่ด้านในหอ
มัสยิดแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของมุสลิม และที่เกี่ยวกับอิสลาม ทั้งยังเป็นที่ตั้งของ สำนักพิมพ์ Aya Group, สถานีวิทยุมุสลิม Mplus, ศูนย์ผลิตสื่อ Islamic Media, โรงเรียนสอนอัล-กุรอาน, ศูนย์ขอการรับรองฮาลาล, สนามเด็กเล่น โรงเรียนอนุบาล โรงเรียนและมหาวิทยาลัย อัล-อัชรัด และมัสยิดยังมีห้องสมุดเกี่ยวกับอิสลามขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยหนังสือ และวรรณกรรมอิสลามที่แปลเป็นภาษาต่าง ๆ มากมาย
ที่มา: www.kyivpost.com
https://news.muslimthaipost.com/news/37306
- มุสลิมเนเธอร์แลนด์ร้อง UN หลังถูกจับผิด กมธ.รัฐสภา
- ยูเอ็นกังวล! หลังอิรักปิดค่ายที่มี ISIS หลายร้อยคน
- เมืองใหญ่แห่งแรกในสหรัฐฯ อนุมัติกระจายเสียงอะซานครบ 5 เวลา
- 10 ภาพมัสยิดหลวงเชคซัยยิด-แสงสีแห่งชาร์จาฮ์ที่สวยงาม หมดโควิดไปเที่ยวชมกัน
- มัสยิดแดงในศรีลังกา มัสยิดที่มีหออะซานถึง 49 หอ (ชมภาพ)
- มัสยิดตุรกีหลายร้อยปี สร้างโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว
- มัสยิดตุรกีอายุ 609 ปี ย้ายหนีน้ำท่วม