กระทรวงกิจการภายในมาเลเซีย ตรวจยึดนาฬิกาที่ออกแบบสีรุ้ง ว่าเป็นสัญลักษณ์ LGBT หรือไม่?
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: มาเลเซียตรวจยึด Swatch สีรุ้ง เป็นสัญลักษณ์ LGBT หรือไม่?
กระทรวงกิจการภายในมาเลเซีย ยึดนาฬิกา Swatch ที่ออกแบบให้มีสีรุ้ง ภายใต้แบรนด์ Pride Collection โดยมีรายงานว่า ร้านค้า 11 แห่ง ถูกบุกค้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คอลเลกชั่นนี้มีออกแบบให้นาฬิกามี 6 สี ซึ่งตรงกับสีธงของชุมชนชาวเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล และคนข้ามเพศ (LGBT)
สื่อ The Edge รายงานว่า การบุกค้นร้านนาฬิกา Swatch หลายแห่งในมาเลเซียเกิดขึ้นนานกว่า 2 วัน เริ่มตั้งแต่วันตที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นิก ฮาเย็ก จูเนียร์ ผู้บริหารของ Swatch Group กล่าวว่า แบรนด์นี้เป็นที่รู้จักมาช้านาน ว่าเป็นนาฬิกาที่ออกแบบให้มีชีวิตชีวา และสนุกสนาน เป็นวิธีการเฉลิมฉลองของผู้คนจากทุกสาขาอาชีพ
“สวอตช์ ภูมิใจที่ได้เป็นผืนผ้าใบที่แต้มสีต่าง ๆ บนข้อมือของทุกคนทั่วโลก และศิลปินมากมายที่ร่วมงานกับเรา เราขอโต้แย้งว่า การใช้สีรุ้ง และการสื่อถึงสันติภาพและความรักของคอลเลกชั่นนาฬิกานี้ ไม่อาจเป็นอันตรายต่อใครทั้งสิ้น”
“ในทางตรงกันข้าม สวอตช์ มักจะส่งเสริมข้อความเชิงบวกที่แสดงถึงความสุขในชีวิต นี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง เราสงสัยว่า หน่วยงานกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายของกระทรวงกิจการภายใน จะยึดรุ้งกินน้ำธรรมชาติที่สวยงาม ที่ปรากฏบนท้องฟ้าของมาเลเซียปีละหลายพันครั้งได้อย่างไร”
สื่อท้องถิ่นยังรายงานว่า มีการบุกค้นร้านค้าในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ใน Klang Valley เมื่อวันที่ 13 และ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีรายงานว่า มีการออกคำเตือนร้านค้าในอีก 5 รัฐ ได้แก่ ตรังกานู กลันตัน เคดะฮ์ ยะโฮร์ และซาราวัก เช่นกัน
เป็นที่น่าสังเกตว่า แทนที่จะทำให้มี 7 สีตามสีรุ้งธรรมชาติ นาฬิกากลับมีเพียง 6 สี ซึ่งตรงกับธงสัญลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของชุมชน LGBT คือ ธง 6 สี แห่งความภาคภูมิ หรือ six-color pride flag
สื่อ Free Malaysia Today รายงานว่า การจับกุมดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่ชาวเน็ตเชื่อมโยงคอลเลกชั่นนาฬิกา กับวงร็อคอังกฤษ Coldplay ที่ให้การสนับสนุนชุมชน LGBT
วง Coldplay ประกาศการแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกในมาเลเซีย ในเดือนพฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้นำจากพรรคนิยมอิสลาม Parti Islam Se-Malaysia (PAS) ซึ่งโพสต์เรียกร้องให้ยกเลิกงานนี้ในเฟสบุ๊ก เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ที่มา: www.channelnewsasia.com