มุสลิมจีนเชื้อสายหุย หลายพันคนเข้าล้อมรอบเพื่อปกป้องมัสยิดเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทางการจีน หลังมีความพยายามรื้อโดม หออะซาน
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : ม็อบมุสลิมหุย ล้อมป้องมัสยิดเก่าแก่ เหตุทางการจีนพยายามรื้อ!
มุสลิมจีนเชื้อสายหุย หลายพันคนเข้าล้อมรอบเพื่อปกป้องมัสยิดเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นความพยายามขั้นสุดท้ายที่จะขัดขวางเจ้าหน้าที่ของทางการที่จะมารื้อโดม และหออะซานออกไป อันเป็นการปราบปรามทางศาสนาที่เริ่มขยายวงกว้างในจีน
มัสยิดเก่าแก่แห่งนี้อยู่ในหมู่บ้านนาเจียหยิง (Najiaying) มณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวหุยมุสลิม การรื้อทำลายสัญลักษณ์ทางศาสนาอิสลามครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อกวาดล้างความเชื่อทางศาสนา โดยเฉพาะที่แสดงออกในสิ่งก่อสร้าง หรือตัวหนังสือ ภาษา ที่มาจากอิทธิพลของต่างชาติ และปรับให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมจีนแบบดั้งเดิมมากขึ้น รวมทั้งปรับให้เข้ากับการปกครองแบบเผด็จการของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่ไม่ศรัทธาในศาสนาหรือพระเจ้า
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทางการจีนได้รื้อถอนสถาปัตยกรรมอิสลามหลายแห่ง ทำลายโดมและหออะซานที่มัสยิดของชาวหุยกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ และมัสยิดในหมู่บ้านนาเจียหยิง เป็นหนึ่งในแห่งท้าย ๆ
นาเจียหยิง เป็นหมู่บ้านประวัติศาสตร์ของชาวหุย และเป็นศูนย์กลางที่สำคัญสำหรับวัฒนธรรมอิสลามในยูนนาน ซึ่งเป็นมณฑลที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ตั้งอยู่บริเวณชายแดนจีนที่ติดกับฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
วิดีโอที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ แสดงให้เห็นประชาชนปะทะกับแถวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุดปราบจลาจล ซึ่งปิดกั้นทางเข้ามัสยิด และผลักดันฝูงชนให้ถอยกลับด้วยโล่และกระบอง ในขณะที่ชาวบ้านตะโกนด่าด้วยความโกรธ พร้อมกับขว้างขวดน้ำและก้อนอิฐใส่ตำรวจ ชาวบ้านกล่าวกับสื่อว่า “นี่คือศักดิ์ศรีชิ้นสุดท้ายของเรา มันเหมือนกับมารื้อบ้านของเรา ซึ่งเรายอมให้เกิดขึ้นไม่ได้”
แหล่งข่าวกล่าวว่า ชาวหุยหลายพันคน ทั้งชาย หญิง ผู้สูงอายุ และเด็ก รวมตัวกันรองมัสยิด เมื่อวันเสาร์ ที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกณฑ์มากว่า 1,000 นาย จับตาดูอย่างใกล้ชิด “หลังจากมาถึงมัสยิด พวกเราเพิ่งรู้ว่ามีการขับรถเครนเข้าไปในบริเวณมัสยิดแล้ว รวมทั้งมีการสร้างนั่งร้านรอบมัสยิดพร้อมสำหรับการบังคับรื้อถอน”
ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 13:00 น. ซึ่งมีการอะซานละหมาดดุฮริ มีผู้เห็นตำรวจตีฝูงชนด้วยกระบอง ทำให้เกิดการปะทะกัน ผู้ประท้วงราว 30 คนถูกตำรวจจับกุมในที่เกิดเหตุ
จากปากคำของผู้อยู่ในเหตุการณ์ และวิดีโอออนไลน์ แสดงให้เห็นว่า การปะทะกันหลายชั่วโมงในวันเสาร์ทำให้ตำรวจล่าถอยไป และประชาชนหลั่งไหลเข้าไปในมัสยิดได้ ตลอดคืนวันเสาร์ จนถึงวันอาทิตย์ ประชาชนผลัดกันเฝ้ามัสยิด เนื่องจากเกรงว่าเจ้าหน้าที่จะกลับมาทำลายโดมสีเขียวขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเสาอะซาน 4 เสา
สื่อรายงานว่า ช่วงบ่ายวันอาทิตย์มีข่าวแพร่สะพัดว่า เจ้าหน้าที่ในเมือง Nagu ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านนาเจียหยิง กำลังไล่จับกุมประชาชน มีการออกแถลงการณ์ที่เข้มงวดแต่คลุมเครือ โดยไม่ได้กล่าวถึงการประท้วงหรือมัสยิด แต่กล่าวว่า ตำรวจกำลังสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ซึ่ง “ก่อกวนระเบียบสังคมอย่างร้ายแรง และก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมที่เลวร้าย”
ทางการยังได้สั่งให้ “ผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมในเหตุการณ์” มอบตัวก่อนวันที่ 6 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ เพื่อรับการผ่อนผัน และยังสนับสนุนให้ประชาชนรายงานเจ้าหน้าที่หากมีเบาะแส
ประชาชนในหมู่บ้านตกอยู่ในความหวาดกลัวเมื่อวันจันทร์ โดยอินเตอร์เน็ตถูกตัดในหลายพื้นที่ มีการส่งโดรนบินทั่วหมู่บ้าน มีการประกาศข้อความของเจ้าหน้าที่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทางลำโพงสาธารณะ เพื่อกระตุ้นให้ผู้ประท้วงออกมามอบตัว
ชาวหุยเป็นชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอิสลามอย่างเข้มแข็ง มีจำนวนราว 11 ล้านคน อาศัยอยู่กระจัดกระจายในพื้นที่ทั่วประเทศจีน ตั้งแต่ทางตะวันตกเฉียงเหนือไปจนถึงเมืองชายฝั่งทางตะวันออก รวมถึงเขตปกครองตนเองหนิงเซี๊ยะ ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ พวกเขาเป็นลูกหลานของพ่อค้าชาวอาหรับและเปอร์เซีย ที่เดินทางมาค้าขายตามเส้นทางแพรไหม และได้รับการหล่อหลอมรวมเข้ากับสังคมจีนส่วนใหญ่ซึ่งส่วนมากเป็นชาติพันธุ์ฮั่น ชาวหุยพูดภาษาจีนกลางและด้วยความที่สามารถหลอมรวมกับชาวฮั่นได้ ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้รับพื้นที่ในการนับถือศาสนามากกว่าชาวมุสลิมจากกลุ่มชาติพันธุ์อื่น แต่ในที่สุด พวกเขาก็กลายเป็นเป้าหมายล่าสุดของการปราบปรามอิสลามของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเริ่มขึ้นในพื้นที่ทางตะวันตกของซินเจียง-อุยกูร์
ที่มา: www.edition.cnn.com