กรีซปิดมัสยิด ห้ามมุสลิมเข้าปฏิบัติศาสนกิจ นับเป็นการละเมิดหลักปฏิบัติการแลกเปลี่ยน
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : กรีซปิดมัสยิด ห้ามมุสลิมเข้าปฏิบัติศาสนกิจ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การกระทำของทางการประเทศกรีซ ในการปิดมัสยิดสมัยออตโตมันไม่ให้มุสลิมเข้าปฏิบัติศาสนกิจ แต่เปิดใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น เป็นการละเมิดหลักการของการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ซึ่งรับประกันเสรีภาพในการนับถือศาสนา
Sabri Can Sannav จากแผนกประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทรัคญา กล่าวถึงสถานะปัจจุบันของมัสยิดประวัติศาสตร์ในประเทศกรีซ ว่า มัสยิดมีซิดิเย ถูกดัดแปลงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ไบเซนไทน์แห่งชิออส (Byzantine Museum of Chios) ในปี 1912 หลังจากเกาะนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกรีซ เขายังได้ประณามกรีซ สำหรับการกระทำเช่นนี้กับมัสยิดแห่งประวัติศาสตร์ ที่ย้อนไปถึงสมัยออตโตมัน
เขากล่าวว่า มัสยิดมีซิดิเย มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และสูญเสียลักษณะทางประวัติศาสตร์ไปมาก เนื่องจากปัจจุบันพิพิธภัณฑ์เป็นที่จัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ของชาวคริสต์ หลุมฝังศพของชาวมุสลิมและชาวยิว ทั้ง ๆ ที่ มัสยิดแห่งนี้เกือบจะเป็นอาคารเพียงแห่งเดียวบนเกาะ ที่มีโครงสร้างแบบออตโตมัน และสามารถอยู่รอดมาได้อย่างสมบูรณ์
เขายังเน้นย้ำถึงความแตกต่างระหว่างเสรีภาพทางศาสนาในตุรเคียและกรีซ ซึ่งมุสลิมบนเกาะชิออสที่ควบคุมโดยทางการกรีซ ไม่สามารถปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิดเก่าแก่ได้ ในขณะที่ชุมชนชาวคริสต์ในตุรเคีย มีอิสระที่จะประกอบศาสนกิจในโบสถ์บนชายฝั่งของเขตเซสเม ในเมืองอิซมีร์ได้
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ตุรเคียได้เปิดโบสถ์คริสต์นิกายกรีกออร์โธด็อกซ์ ประมาณ 84 แห่ง ใน Edirne, Cesme, Alacati, Ordu, Gemlik และในอีกหลายพื้นที่ แม้บางแห่งจะไม่มีการรวมตัวเพื่อปฏิบัติศาสนกิจ โดยจะมีการปฏิบัติเพียงบางวัน ตามที่กำหนดเท่านั้น
เนวาล โคนุค รองศาสตราจารย์ด้านสถาปัตยกรรมจากมหาวิทยาลัยมาร์มารา เปิดเผยว่า มีมัสยิดสมัยออตโตมัน 4 แห่งบนเกาะชิออส (Chios) คือ มัสยิดเบรัคลี (Bayrakli) ถูกใช้เป็นโกดังสำหรับเก็บอะไหล่ของร้านซ่อมเครื่องไฟฟ้า มัสยิดมีซิดิเย (Mecidiye) ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ทันทีที่กรีซเข้ายึดครองจนถึงปัจจุบัน ในขณะที่มัสยิดออสมานิเย (Osmaniye) และมัสยิดออร์ฮานิเย (Orhaniye) ถูกใช้เป็นที่เก็บโบราณวัตถุจาการขุดค้นทางโบราณคดี
ที่มา: www.aa.com.tr