ฝ่ายปกครองเมืองบัสรอ ประเทศอิรัก ได้รื้อถอนมัสยิดและหออะซานอายุ 300 ปี เพื่อขยาย
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : อิรักรื้อมัสยิดอายุ 300 ปี
เมื่อเย็นวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ฝ่ายปกครองเมืองบัสรอ ประเทศอิรัก ได้รื้อถอนมัสยิดและหออะซานอายุ 300 ปี เพื่อขยายถนนสายสำคัญเลียบชายฝั่ง อะบู อัล-ฆอซิบ ในเมืองบัสรอ ซึ่งตั้งอยู่บนอ่าวริมฝั่งทะเล
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความตกใจให้แก่ชาวบ้าน และยังได้รับการประณามจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรม เนื่องจากมัสยิด อัล-ซิราญี (Al-Siraji) แห่งนี้ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1727 (2270) และเป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในอิรัก โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมของหอคอยมัสยิดที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยมีการสร้างด้วยอิฐที่ทำจากโคลน
กระทรวงวัฒนธรรมของอิรัก กล่าวว่า จะต้องมีการตอบโต้ทางกฎหมายจากการรื้อถอนมัสยิด อัล-ซีราญี นี้ และว่า แม้รัฐบาลอิรักและประชาชน จะกระตือรือร้นในการสร้างความก้าวหน้าให้กับประเทศในทุกระดับ แต่ปฏิเสธที่จะทำร้ายอาคารใด ๆ ที่มีลักษณะเป็นมรดกทางโบราณคดี ไม่ว่าจะเป็นทางศาสนาหรือทั่วไป เนื่องจากถือว่าเป็น “ทรัพย์สินของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และมรดกของอิรัก”
มัสยิด อัล-ซีราญี และพื้นที่รวม 1,900 ตารางเมตร เป็นของกองทุนทางศาสนาของกลุ่มซุนนีย์ กระทรวงวัฒนธรรม เรียกร้องให้องค์กรซุนนีย์ และชีอะฮ์ เข้าแทรกแซงและยืนหยัดเพื่อลงโทษบริษัทในเครือ หากพวกเขาได้รับอนุญาตให้ล่วงละเมิด หรือบิดเบือนข้อเท็จจริงทางประวัตศาสตร์
อย่างไรก็ตาม นายอาซาด อัล-อิดานี ผู้ว่าการรัฐบัสรอ กล่าวในการประชุมสื่อเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ก่อนทำการรื้อมัสยิด ได้มีการแจ้งกับทางกองทุนวากัฟของซุนนีย์แล้ว และว่า เป็นการตกลงกันระหว่างรัฐบาลท้องถิ่นบัสรอ และผู้อำนวยการมูลนิธิซุนนีย์ หลังจากที่เขาไปเยือนบัสรอเมื่อไม่นานมานี้
ฝ่ายกองทุนวากัฟซุนนีย์ ออกมาแถลงว่า การตกลงดังกล่าวเป็นการให้รื้อถอนตัวมัสยิด ไม่ใช่หออะซานที่ทำด้วยอิฐที่สร้างจากโคลน ซึ่งทางฝ่ายกองทุนกำหนดจะรื้อถอนด้วยมือ และนำไปอนุรักษ์ไว้เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง และว่าสภาซุนนีย์สูงสุดของอิรัก ระบุว่า ได้ส่งคำขอมากกว่า 1 ครั้ง เพื่อยืนยันว่า ควรให้หออะซานอิฐโคลนยังคงอยู่อย่างเดิม
เจ้าหน้าที่ของเมืองบัสรอ ออกมาปกป้องว่า ในวันที่มีการรื้อถอน นายโมฮัมเหม็ด อัล-มูลา ซึ่งเป็นตัวแทนของกองทุนวากัฟซุนนีย์ ก็อยู่ในพื้นที่ แต่ไม่ได้โต้แย้งหรือคัดค้านแต่อย่างใด
รัฐบาลท้องถิ่นบัสรอ ให้คำมั่นว่า จะสร้างมัสยิดหลังใหม่ และสร้างหออะซานแบบเดิมขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกัน ด้วยงบประมาณ 900,000 ดอลล่าร์ และว่า ที่ตั้งของมัสยิดทำให้การจราจรติดขัด
ชาวอิรักบางคนตกใจเมื่อเห็นมัสยิดและหออะซานอายุ 300 ปี พังลงภายในไม่กี่นาที และว่านี่เป็นอาชญากรรมต่อมรดกของชาติ ซึ่งเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่กลุ่ม ISIS ระเบิดหออะซาน อัล-ฮัดบา ในเมืองโมซุล เมื่อปี 2017 (2560)
ที่มา: www.middleeasteye.net
https://news.muslimthaipost.com/news/37485
- ฮัจย์ปีนี้ คาด 2 ล้านคนจาก 57 ประเทศอิสลาม
- ม็อบมุสลิมหุย ล้อมป้องมัสยิดเก่าแก่ เหตุทางการจีนพยายามรื้อ!
- มัสยิดอายุ 413 ปีในบังคลาเทศ ต้องบูรณะด่วน!!
- มัสยิดเขตมักกะฮ์ 5 แห่ง จ่อบูรณะตามแผนฯ ระยะที่ 2
- ขยายมัสยิดกุบา 10 เท่า เวนคืนบ้านกว่า 200 หลัง
- มัสยิดเก่าซาอุฯ 150 ปี เปิดให้เข้าปฏิบัติศาสนกิจแล้ว
- กษัตริย์มาเลเซีย ส่งฮุจญาจเที่ยวแรกผ่าน “เส้นทางมักกะห์”
- แต่งตั้งสตรีซาอุฯคนแรก สำรองผู้บริหารประจำ AfDB
- ประธานาธิบดียูเครน ฟ้องมุสลิมตาต้าร์รับกรรมหนักจากรัสเซีย
- มัสยิดในอังกฤษ แบล็คเบิร์น ถึงเวลาเปลี่ยนครั้งใหญ่แล้ว!
- มัสยิดในประเทศไทย สถิติจำนวนมัสยิดทั่วราชอาณาจักร