ประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าด้วยเรื่อง การงดละหมาดญะมาอะฮ์ การงดละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะฮ์) ที่มัสยิด
ประกาศจุฬาราชมนตรี งดละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด (ฉ.3/2563)
ประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ว่าด้วยเรื่อง การงดละหมาดญะมาอะฮ์ การงดละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะฮ์) ที่มัสยิด การจัดกิจกรรมของกลุ่มญะมาอะห์ตับลีฆ และการจัดการกับศพ (มัยยิต) (ฉบับที่ 3/2563)
ตามที่ ได้มีประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าด้วยเรื่อง การละหมาดวันศุกร์ การละหมาดญุะมาอะห์ และการจัดกิจกรรมและการรวมตัวกันเป็นกลุ่ม สําหรับในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และ ในพื้นที่ที่รัฐบาลประกาศห้ามรวมตัว (ฉบับที่ 1/2563) ลงวันที่ 18 มีนาคม 2563 และประกาศ จุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ฉบับที่ 2/2563) ลงวันที่ 21 มีนาคม 2563 นั้น
- สำนักจุฬาราชมนตรี แถลงการณ์ ขอมุสลิมเคร่งครัด เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019
- จุฬาราชมนตรี ประกาศป้องกันโควิด 2019 (ฉ.2/2563)
ปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้ทวี ความรุนแรงมากขึ้น จํานวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อบุคลากรและอุปกรณ์ทางการ แพทย์ที่มีจํานวนจํากัด ในสภาวการณ์เช่นนี้ย่อมไม่เป็นผลดีต่อต่อประชาชนทั่วไปหรือผู้ที่มีความอ่อนไหว ต่อเชื้อไวรัส เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจําตัว
อาศัยบทบัญญัติแห่งคัมภีร์อัลกุรอาน ที่ 195 ซูเราะฮ์ อัลบะกอเราะฮ์
وَلَا تُلْقُوا بِأَيْدِيكُمْ إِلَى التَّهْلُكَةِ
ความว่า: “สูเจ้าอย่าได้นําตนเองสู่ความวิบัติ”
ซึ่งมีนัยชี้ชัดว่า ห้ามกระทําการใด ๆ ที่เป็นการฆ่าตัวตาย การทําร้ายตนเอง และ การนําพาตนเองไปสู่ความเสียหาย ความสูญเสียหรือการเสียชีวิต จะด้วยวิธีการหรือการกระทําใด ๆ ก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งต้องห้าม
และอาศัยความจากวจนะของศาสนทูต (ซ.ล.) ที่ว่า
ความว่า: “ไม่มีการประทุษร้ายต่อตนเองและต่อผู้อื่น”
ซึ่งมีนัยชี้ชัดว่า บุคคลจะไม่ประทุษร้ายต่อตนเองและจะไม่ประทุษร้ายหรือสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น ไม่ว่าจะด้วยวิธีการหรือการกระทําใด ๆ ก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งต้องห้าม
ในการนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะผู้ทรงคุณวุฒิจุฬาราชมนตรี ประธาน กรรมการอิสลามประจําจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้แทนสภาอุลามาอฟาฏอนีย์ ผู้แทน แพทย์มุสลิม และผู้แทนกลุ่มญะมาอะห์ตับลีฆ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2563 ณ สํานักงานคณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดสงขลา สํานักจุฬาราชมนตรีจึงขอให้สํานักงานคณะกรรมการอิสลาม ประจําจังหวัดทั่วประเทศประกาศให้ทุกมัสยิดในสังกัด ดําเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังนี้
1. งดการละหมาดญะมาอะห์และการละหมาดวันศุกร์ (ญมอะฮ์) ที่มัสยิดเป็น การชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวจะมีสภาวการณ์ในทางที่ดีขึ้น โดยให้สัปปุรุษละหมาดดุฮ์ริ 4 รอกาอัต ที่บ้านแทน ทั้งนี้ การงดละหมาดวันศุกร์ในสถานการณ์เกิดโรคระบาดร้ายแรง ถือเป็นอุปสรรคที่อนุโลมให้งดเว้น การละหมาดวันศุกร์นั้นได้
2. ให้กลุ่มญะมาอะห์ตับลีฆงดกิจกรรมทุกประเภท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
3. กรณีผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ให้ดําเนินการดังนี้
3.1 ให้ประสานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ในการจัดการศพ ให้บุคคลที่เป็นมุสลิมทําการตะยัมมุมแทนการอาบน้ำศพในห้องปลอดเชื้อหรือ สถานที่ที่จัดเตรียมไว้โดยเฉพาะ
ทั้งนี้ ให้ทําตะยัมมุมก่อนบรรจุศพลงในถุง โดยผู้ทําหน้าที่ตะยัมมุม สวมชุดป้องกันการติดเชื้อ (PPE) แล้วตบฝุ่นที่เตรียมไว้ ครั้งที่ 1 เพื่อลูบใบหน้าศพ และตบฝุ่น ครั้งที่ 2 เพื่อลูบมือจนถึงข้อศอกหรืออย่างน้อยที่สุดลูบให้ถึงข้อมือ ทั้ง 2 ข้าง แล้วปิดถุงบรรจุศพ โดยถือเอาถุงบรรจุศพเป็นกะฝุ่น และให้ผู้นั้นทําการละหมาดให้แก่ศพ ณ สถานที่นั้น
ทั้งนี้ ในกรณีที่ ไม่สามารถทําตะยัมมุมได้ ให้ละหมาดแก่ศพในสภาพนั้น และหรือนําศพไปฝัง ณ สุสาน โดยไม่ต้องมีการละหมาดให้แก่ศพ
3.2 ห้ามญาติผู้เสียชีวิตและผู้มาเยี่ยม สัมผัสหรือจูบศพ (มัยยิต)
ขอให้ทุกคนมีความอดทนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและหมั่นขอดุอาอฺ (ขอพร) จากอัลลอฮ์พระผู้เป็นเจ้า ด้วยบทขอพรนี้และบทอื่น ๆ อย่างสม่ำเสมอ
ความหมาย : “ข้าพระองค์ขอการปกป้องด้วยพระผู้อภิบาลแห่งเกียรติยศและ ความเกรียงไกร และข้าพระองค์ขอความคุ้มครองด้วยพระผู้อภิบาลแห่งอํานาจการปกครอง และสรรพสิ่งทั้งปวง และข้าพระองค์ขอพึ่งพิงยังพระผู้ทรงอมตะ พระผู้ทรงดํารงอยู่เป็นนิรันดร์ โปรดทรงผันโรคระบาดให้พ้นไปจากเรา และโปรดคุ้มครองเราให้พ้นจากความไม่ดีของโรคร้าย ด้วยเถิด”
ทั้งนี้ ให้ถือปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวข้างต้นอย่างเคร่งครัดจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ประกาศ ณ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563
(นายอาศิส พิทักษ์คุมพล)
จุฬาราชมนตรี