ผู้นำชิลีสั่งเลื่อนการเข้าพบของทูตอิสราเอล จากเหตุสังหารเยาวชนในเวสต์แบงก์
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ผู้นำชิลีสั่งเลื่อนเข้าพบทูตอิสราเอล เหตุสังหารเวสต์แบงก์
ความขัดแย้งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา เมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศชิลี นาย Antonia Urrejola ได้แจ้งแก่ทูตอิสราเอลที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ ว่า ประธานาธิบดี แกเบรียล บอริก แห่งชิลี สั่งเลื่อนการเข้าพบเพื่อทำพิธีรับรองทูต ไปในเดือนตุลาคม
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศชิลี แถลงว่า สาเหตุของการเลื่อนทำพิธี เป็นเพราะในวันดังกล่าว เยาวชนวัย 17 ปี ชาวปาเลสไตน์ นาม Odai Trad Salah ถูกเจ้าหน้าที่อิสราเอลยิงที่ศีรษะจนเสียชีวิต ที่หมู่บ้าน Kufr Dan ใกล้เมือง Jenin นับเป็นชาวปาเลสไตน์คนที่ 149 ที่ถูกอิสราเอลสังหารภายในปีนี้
ต่อมาในวันที่ 16 กันยายน กระทรวงต่างประเทศอิสราเอลออกแถลงการณ์ว่า พฤติกรรมเช่นนี้เป็นที่น่าสงสัยและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และว่า สิ่งนี้ส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอย่างร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม เอกอัครราชทูตอิสราเอลคนใหม่ ประจำชิลี ออกมาผ่อนคลายความตึงเครียด โดยกล่าวว่า การเป็นชาวอิสราเอลและชาวยิว พวกเขาได้เห็นสิ่งเลวร้ายกว่านั้นในช่วง 4,000 ปีที่ผ่านมา และว่า เขาจะเอาชนะเหตุการณ์นี้เพื่อประโยชน์ของชิลี ความดีของอิสราเอล และความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
ท่าทีของประธานาธิบดีชิลีครั้งนี้ ได้รับเสียงชื่นชมจากทางการปาเลสไตน์ โดย อะหมัด อัล-ดีค ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีต่างประเทศปาเลสไตน์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีกับการแสดงจุดยืนของประธานาธิบดีชิลี ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายและมติระหว่างประเทศ
ประธานาธิบดีบอริก มักจะแสดงอย่างเปิดเผยว่าต่อต้านอิสราเอล และปฏิบัติการทางทหารที่รุนแรงของเจ้าหน้าที่ยิว เมื่อปีที่แล้ว เขาได้ตอบคำถามสื่อโทรทัศน์ที่ถามว่า เขายังคงความคิดที่ว่า “อิสราเอลเป็นรัฐอาชญากรและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” หรือไม่ เขาตอบว่า “เขายังคงความคิดนี้อยู่”
ในปี 2019 ชุมชนชาวยิวในชิลี ได้มอบน้ำผึ้งให้แก่เขาในเทศกาลปีใหม่ยิว เขาได้ทวีตข้อความว่า เขารู้สึกขอบคุณในไมตรีจิต แต่มันควรจะเริ่มจากการขอให้อิสราเอล คืนดินแดนที่ยึดครองอย่างผิดกฎหมายให้แก่ชาวปาเลสไตน์
ที่มา: www.aljazeera.com