เปิดประวัติ นุ๊ก สุทธิดา พร้อมเผยสาเหตุที่ตัดสินใจเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม
นุ๊ก สุทธิดา ประวัติ ทำไมเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม
เปิดประวัติ นุ๊ก สุทธิดา พร้อมเผยสาเหตุที่ตัดสินใจเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม
สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ชื่อเล่น นุ๊ก และชื่ออิสลาม อาอีซะห์
นุ๊ก สุทธิดา เกิดวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2520 เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชาวกรุงเทพมหานคร เป็นบุตรสาวคนโตของ พล.อ.อ.หม่อมหลวงสุทธิรัตน์ เกษมสันต์ กับแสงดาว เกษมสันต์ ณ อยุธยา บิดาเป็นทหารอากาศ มารดาเป็นนางพยาบาล มีน้องชาย 1 คน เมื่ออายุได้ 2 ขวบ ครอบครัวได้ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร
นุ๊ก สุทธิดา เริ่มมีชื่อเสียงจากการเล่นละครโทรทัศน์แนวจักร ๆ วงศ์ ๆ ทางช่อง 7 เรื่อง "โม่งป่า" ในปี พ.ศ. 2535 พร้อม ๆ กับได้เล่นมิวสิกวิดีโอเพลง บอดี้การ์ด ของเต๋า สมชาย เข็มกลัด ในสังกัดอาร์.เอส. โปรโมชั่น จากนั้นจึงได้เป็นพิธีกรในรายการ "นะคะ" ทางช่อง 3 ในปี พ.ศ. 2536
จากนั้น นุ๊ก สุทธิดา ได้ออกอัลบั้มเพลงชุดแรก ในปีพ.ศ. 2537 กับสังกัด อาร์.เอส. โปรโมชั่น โดยใช้ชื่อชุดเดียวกับชื่อเล่นตัวเอง มีเพลงที่ได้รับความนิยมคือ รอได้ไหม, ถอนสายบัว (พร้อมกับท่าเต้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะเพลง), รักเธอไม่ได้, บ้านนี้สุนัขดุ, กลับใจ, หวงก้าง
จากนั้นในปี พ.ศ. 2538 นุ๊ก สุทธิดา ได้เล่นภาพยนตร์เรื่องแรก คือ โลกทั้งใบให้นายคนเดียว ประกบคู่กับ สมชาย เข็มกลัด และ ปราโมทย์ แสงศร และได้รับรางวัลตุ๊กตาทองและรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ นักแสดงหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี
นุ๊ก สุทธิดา จบมัธยมจากโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)
ด้านครอบครัวของสาวนุ๊ก สุทธิดา
นุ๊ก สุทธิดา สมรสกับ นายบุญสิทธิ์ ธรรมโรจน์พินิจ บุตรชายของนายไพจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ "ป. ประตูน้ำ" ในต้นปี พ.ศ. 2547 มีลูกชายด้วยกัน 3 คน คือ เด็กชายฐปนต ธรรมโรจน์พินิจ และเด็กชายอินทัช ธรรมโรจน์พินิจ ที่เกิดกับนายบุญสิทธิ์ ธรรมโรจน์พินิจ อดีตสามีคนก่อน และเด็กชายมูฮัมหมัด อดัม บิน มูฮัมหมัด ฮากีม ชื่อเล่น อดัม คลอดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ที่เกิดกับมูฮาหมัด ฮากีม บินอาซาฮา
- บรรยากาศงานแต่ง นุ๊ก ฮากีม หวานชื่น ที่มาเลเซีย
- มูฮาหมัด ฮากีม ว่าที่เจ้าบ่าวของสาว นุ๊ก สุทธิดา กับ10 เรื่องราวที่ไม่มีใครรู้!
- ซูมชัดๆ 3ชุดแต่งงาน นุ๊ก สุทธิดา สวยเลอค่ากว่า1ล้านบาท
- 10 ภาพ ครอบครัวอบอุ่นของ “นุ๊ก สุทธิดา”น่ารักสุดๆ!!
- เก็บตก รวมช็อตน่ารักๆ ของครอบครัว นุ๊ก สุทธิดา ในวันอีดิ้ลฟิตรี
แต่เมื่อปี พ.ศ. 2552 ทั้งสองได้หย่าขาดจากกัน โดยรับผิดชอบเลี้ยงดูบุตรพร้อมกัน แต่สิทธิในการปกครองดูแลเป็นของมารดา
ในปี พ.ศ. 2557 นุ๊ก สุทธิดา ได้ตัดสินใจเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม ทำเอาหลายคนสงสัยไม่น้อยกับการเปลี่ยนศาสนาเป็นอิสลาม
นุ๊ก สุทธิดา เผยว่า "มันเริ่มเรื่องมาจากว่าเรามีเพื่อนเป็นอิสลาม เราก็รู้สึกว่าทำไมอ่ะ เราอ่านหนังสือเรื่องปรัชญาศาสนา ก็พอรู้ประวัติคร่าวๆ ทำไมเราไม่รู้จักอิสลาม อิสลามพูดถึงอะไร เราก็เริ่มสนใจค่ะ นุ๊กเป็นคนที่แบบนั่งๆ อยู่บ้านก็ลุกเลย ขับรถออกไปร้านหนังสือเลย คือเป็นคนอย่างนี้ก็ไม่รู้ว่านุ๊กแปลกรึเปล่า ก็ไปหาหนังสือแต่ไม่มีสักเล่มเลย เลยเสิร์ชหาในอินเทอร์เน็ตแต่กลัวว่าเราแสบตาเลยไปให้เค้าปริ๊นต์มาจากมือถือปึกนึงมาอ่าน อ่านได้ 3 วัน คืองง มันมีภาษาอาหรับภาษาอะไรที่เราไม่รู้จักค่ะ อ่านวันแรกเราก็ข้ามๆ ไป อ่านอันไหนไม่เข้าใจก็ข้ามไป พอมารวมกันมันก็งงๆ อยู่ดีว่าถ้าจะมาอ่านเองใช้เวลา 10 ปีกว่าที่เราจะเข้าใจว่าเค้าพูดอะไร
โชคดีมากเลยหลังจากนั้นที่อ่านและไม่เข้าใจ ก็เจอคุณฮาน่า ฮาน่าก็จะอยู่ในกลุ่มเดียวกัน วันนั้นเจอเค้า นุ๊กว่ามันเป็นพระประสงค์นะคะ ที่ให้เลือกที่จะมาศึกษาทางนี้ เหมือนกับว่าเราคุยๆ กับฮาน่าและเรานึกขึ้นมาได้ เราก็ถามว่า ฮาน่าเอาฮิวโก้ไปเรียนที่ไหนอ่ะ เค้าก็ถามว่าทำไม นุ๊กบอกว่านุ๊กอยากไปเรียน อยากรู้เค้าพูดอะไร คือตอนนั้นยังไม่คิดจะเปลี่ยนนะคะ คือแค่อยากรู้พื้นฐานเบื้องต้น ก็ไม่ได้กะจะเรียนยาวด้วย อยากเรียนคร่าวๆ ฮาน่าก็บอกว่าเรียนที่มูลนิธิสันติชล ปรากฏว่า
มูลนิธินี้กับบ้านนุ๊กอยู่ซอยติดกัน และนุ๊กเป็นคนชอบทำอะไรใกล้ๆ บ้านเพราะทำอะไรหลายๆ อย่าง เราก็ไปเรียนเลย คือครั้งแรกที่นุ๊กไปเจอครูที่สอน เหมือนกับเค้าเปิดใจนุ๊กอ่ะ ตอนแรกนุ๊กก็กั้นๆ นิดนึงนะคะ แต่ว่าก็ด้วยความที่เดินเข้าไปประชาสัมพันธ์ ทีมงานเข้าต้อนรับดีมาก เค้าต้อนรับทุกคนดี คนในนั้นยิ้มแย้มเราก็รู้สึกคลายๆ ละ เพราะคิดว่าหลายๆ คนก็คงจะกลัวนะพวกมุสลิม เราก็จะรู้สึกว่าข่าวหรืออะไรที่ออกมา ซึ่งจริงๆ มันก็คือการที่เราไม่รู้จักกันและกันอย่างถ่องแท้ มันก็เลยทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเกิดความไม่เข้าใจกันเกิดขึ้นนะคะ เพราะว่ามุสลิมพื้นฐานของเค้าคือการอยู่ร่วมกันในสังคมของเค้า เพราะฉะนั้นมันยิ่งกลายเป็นเราจะเข้าไปรู้จักเค้าได้ยาก พอมีข่าวออกมาที คนอื่นก็รู้จักจากข่าว จะไม่ได้รู้จักตัวตน
พอนุ๊กไปเรียน ตอนแรกก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน เราก็ยังมีกำแพงของเรา ครูผู้สอนพาเราไปปฐมนิเทศก่อน ครูคนนี้เก่งมาก มีความรู้เรื่องพุทธศาสนาเยอะมาก ซึ่งนุ๊กก็จะชื่นชมคนนี้มาก นุ๊กเชื่อว่าการที่เราจะศรัทธาอะไรบางอย่างเป็นเรื่องสำคัญ นุ๊กก็จะพูดเสมอว่า 3 สิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญคือ ศรัทธา ความรัก ความหวัง ถ้าคนเราไม่มี 3 สิ่งนี้ คุณจะต้องถามตัวเองว่าเราอยู่เพื่ออะไร ชีวิตจะไร้สาระมาก ศรัทธาที่นุ๊กบอกว่ามันสำคัญมาก ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไร มันดีที่คุณนับถือ ดีกว่าไม่มีศาสนา เวลานุ๊กไปเจอคนที่ไม่มีศรัทธาในอะไรเลย หรือคิดว่าตัวเองมีศาสนาแต่ตัวเองไม่ได้สร้างศรัทธาอะไรเลย ไม่ได้รู้จักว่าสิ่งที่ตัวเองนับถือคืออะไร เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก ถ้าคุณไม่มีศรัทธาคุณจะไม่สามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินลิมิตชีวิตที่คุณจะทำได้เลย นุ๊กไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดว่านุ๊กเศร้า เสียใจกับเรื่องอะไร แต่จริงๆ แล้ว นุ๊กไม่เคยเสียใจเลย ไม่ได้ทุกข์ทน เป็นคนที่ไม่เคยทุกข์ทนกับอะไรเลยในชีวิต ชีวิตค่อนข้างสบาย ถึงแม้จะโชคร้ายในเรื่องความรักหรืออะไรหลายๆ อย่าง และก็ไม่เคยประสบความสำเร็จในเรื่องความรักเลย แต่ก็ไม่ได้คิดว่าทุกข์ทน คิดว่าชีวิตก็เหมือนกันเป็นเรื่องปกติ แล้วก็ค่อนข้างจะไม่ทุกข์ทนจากอะไร ทุกอย่างมาจากเรื่องศรัทธานี้ล่ะค่ะ เรามีศรัทธา แล้วก็เรื่องกีฬา นุ๊กว่าข้ามสิ่งที่เราทำไม่ได้มาหลายอย่างมาก เพราะว่าเราศรัทธา เรามีสะพาน เวลาที่นุ๊กเห็นคนที่ไม่มีศรัทธาในอะไรเลย รู้สึกสงสาร มันจะไม่มีปาฏิหาริย์อะไรเลยเกิดขึ้นในชีวิต มันน่าเศร้า" (อ่านเพิ่มเติม: อาอีซะห์ หรือนุ๊ก สุทธิดา เคลียร์ชัด ทำไมถึงเปลี่ยนศาสนา?)
นุ๊ก สุทธิดา หลังจากเข้ารับอิสลาม เราจะเห็นว่านุ๊กได้คลุมฮิญาบตลอดเวลา แม้กระทั่งทำงานในวงการบันเทิง ออกรายการ นุ๊กก็คลุมฮิญาบอยู่เสมอ ซึ่งนุ๊กถือเป็นคนหนึ่งที่เป็นแบบอย่างที่ดีของหญิงมุสลิม อัลฮัมดุลิลลาห์