ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ศวฮพัฒนางานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีฮาลาลเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม ฮาลาลมาอย่างต่อเนื่อง
อุตสาหกรรมฮาลาลไทยกับพัฒนาการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลฮาลาล
ในวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2567 นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำทีมงานเข้าเยี่ยมชมกิจการของศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) โดยมี รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยให้การต้อนรับ ผอ.ศวฮ.ระบุว่ากลุ่มประเทศมุสลิมสนใจพัฒนาการด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลของประเทศไทยมาโดยตลอด
รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน กับ นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์
ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ผอ.ศวฮ.ได้รับเชิญให้นำเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ฮาลาล เพื่อพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ฮาลาลเชิงอุตสาหกรรมแก่หลายประเทศมุสลิม ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย, กาตาร์, บาห์เรน, โอมาน, ยูเออี, คูเวต, จอร์แดน, อิรัก, คาซักสถาน และมาเลเซีย อีกทั้งยังมีงานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ฮาลาลเพื่ออนาคตร่วมกับทีมนักวิจัยจากหลายประเทศ
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ศวฮ.พัฒนางานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีฮาลาลเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม ฮาลาลมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การจัดตั้ง ศวฮ.ตามมติคณะรัฐมนตรีในวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2546 ศวฮ.พัฒนาระบบการมาตรฐานฮาลาล โดยประยุกต์ใช้นวัตกรรมในหลายขั้นตอนผ่านกระบวนการมาตรฐานฮาลาลที่ชื่อว่า HAL-Q มีการใช้นวัตกรรม, H numbers, น้ำยาดินชำระล้าง, งานทางนิติวิทยาศาสตร์ฮาลาล วางระบบในโรงงานอุตสาหกรรม 1,112 โรงงาน ครอบคลุมคนงาน 158,823 คน ตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ไปกว่า 188,731 ตัวอย่าง นำไปสู่พัฒนาการด้านเทคโนโลยีดิจิทัล การสร้างบิ๊กดาต้า การพัฒนาระบบ “ฮาลาลบล็อกเชน” เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคในกระบวนการทวนสอบย้อนกลับ (Traceability) ผ่านแอปพลิเคชันในรูป Thailand Diamond Halal Blockchain เป็นไปตามมติคณะรัฐมตรีวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2558 และ 10 กันยายน พ.ศ.2562 ตามการนำเสนอของกระทรวงอุตสาหกรรมและสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เพื่อให้อุตสาหกรรมฮาลาลประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ ศวฮ.พัฒนาแพลตฟอร์ม “THAIs” หรือ Thailand Halal Trustworthy A.I. เพื่อสร้างความไว้วางใจต่อผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมฮาลาลของประเทศไทย โดยประยุกต์ใช้เอไอสองแนวทาง โดย “เอไอที่หนึ่ง” คือ Actual Implementation ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานด้วยมือและสมองของมนุษย์ เป็นต้นว่า การวางระบบ HAL-Q, งานห้องปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์ฮาลาล, การใช้นวัตกรรม, การตัดสินทางศาสนา (ฟัตวา) “เอไอที่สอง” คือ Artificial Intelligence โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) แพลตฟอร์ม THAIs จะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรม ภาคผู้บริโภคและภาคธุรกิจ เกิดความเชื่อมั่นต่อผลิตภัณฑ์ฮาลาลของประเทศไทย เป้าหมายเพื่อลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนการดำเนินงาน เพิ่มความสามารถด้านการแข่งขัน นี่คือภาพความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมฮาลาลประเทศไทยที่ก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างแท้จริงตามแนวทางที่ ศวฮ.นำเสนอต่อกระทรวงอุตสาหกรรม
บทความที่น่าสนใจ
- ศวฮ.ตอกย้ำความเชื่อมั่น ยกฮาลาลไทยสู่มาตรฐานโลก
- สุดยอด! ผู้แทนไทย ร่วมประชุมใหญ่ SMIIC ครั้งที่ 16 ซาอุดิอาระเบีย
- เมื่อนักดาราศาสตร์ยืนยันจำนวนดาวเคราะห์ในระบบสุริยะตามอัลกุรอาน
- ศวฮ. เปิดเวทีดัน Soft Power ด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลสู่เวทีโลก
- รายการวิถีรอมฎอน ปี7 ห้ามพลาด! รายการที่มุสลิมไทยรอคอย กลับมาแล้ว
- ศวฮ.นำพลังละมุนหนุนไทยขึ้นสู่ระดับผู้นำในเวทีฮาลาลโลก
- ศวฮ.ผุดทำวิจัยทดสอบการปนเปื้อนเจลาตินสุกรในวัคซีนโควิด-19
- มองประเทศไทยหลังสถานการณ์โควิด-19
- ช็อคตาตั้ง! นักวิทย์ฯพบ 185 ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นจากหมู ในชีวิตประจำวัน
- THA 2019 ประจักษ์พยานแห่งความล้ำหน้าของฮาลาลไทย
- ศวฮ.ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพ ชุมชนมุสลิมสู้โควิด
- ศวฮ.ร่วมบรรยาย “How to Establish Halal Products Testing Laboratory?”