
อัตลักษณ์ ศาสนา และพหุวัฒนธรรม: เมื่อผู้นำหญิงแสดงศรัทธาอย่างสง่างาม
อัตลักษณ์ ศาสนา และพหุวัฒนธรรม: เมื่อผู้นำหญิงแสดงศรัทธาอย่างสง่างาม
ในวันที่ 11 มีนาคม 2568 ภาพของนายกรัฐมนตรีหญิง แพรทองธาร ชินวัตร ที่ยกมือขอดุอาร์ในงานเลี้ยงระดับสูง (เลี้ยงละศีลอดระดับประเทศ ซึ่งแขกผู้ทรงเกียรติมากมาย และบุคคลชั้นนำของสังคมมุสลิมต่างร่วมงานนี้อย่างพร้อมเพรียง) จากภาพ ไม่เพียงสะท้อนศรัทธาทางศาสนา แต่ยังเป็นตัวแทนของ อัตลักษณ์ (Identity) และ พหุวัฒนธรรม (Multiculturalism) ในสังคมร่วมสมัย
ผมชื่นชม ซึ่งท่านนายกฯ กล่าวว่า ชอบบทสวด อันทึ่จริง ถ้าท่านนายกฯ กล่าวว่า “ชอบน้ำเสียงการอ่านคำภีร์อัลกุรอ่าน” จะเลิศอย่างยิ่ง แสดงว่าทำการบ้านมาดี ซึ่งขอบอกว่า ทีมงานท่านนายกฯ อาจจะต้องเพิ่มรายละเอียดอีกนิดหน่อยกรณี ท่านนายกฯเข้าร่วมงานในมิติหรือบริบทที่แตกต่างกัน
เข้าเรื่อง อัตลักษณ์ของผู้นำหญิงในบริบทพหุวัฒนธรรม
จากทฤษฎีอัตลักษณ์ทางสังคม (Social Identity Theory) ของ Tajfel & Turner อัตลักษณ์ของบุคคลถูกกำหนดโดยกลุ่มที่พวกเขาสังกัด ในกรณีนี้ ผู้นำหญิงแสดงออกถึง อัตลักษณ์ทางศาสนา ผ่านการขอดุอาร์ และ อัตลักษณ์ทางการเมือง ในฐานะผู้นำที่เคารพพหุวัฒนธรรม
พหุวัฒนธรรมและการอยู่ร่วมกันของศาสนาและการเมือง
แนวคิดนี้เชื่อมโยงกับ ทฤษฎีอัตลักษณ์พหุวัฒนธรรม (Multicultural Identity Theory) ของ Phinney ที่กล่าวว่า บุคคลสามารถมีอัตลักษณ์ที่หลากหลายและอยู่ร่วมกันได้ ภาพของผู้นำหญิงที่แสดงออกถึงศรัทธาในบริบททางการเมืองสะท้อนถึง ความเคารพต่อความหลากหลายและการสร้างสะพานเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม
ศาสนา อัตลักษณ์ และบทบาทของศาสนาในการเมือง
ในยุคโลกาภิวัตน์ ผู้นำที่สามารถรักษาศรัทธาทางศาสนาได้โดยไม่กระทบต่อหน้าที่ทางการเมือง เป็นตัวอย่างของแนวคิดที่ก้าวหน้า เช่น กรณีของภาพอดีตนายกรัฐมนตรีหญิง Jacinda Ardern ประเทศนิวซีแลนด์ ที่สวมฮิญาบเพื่อแสดงความเคารพต่อชุมชนมุสลิม ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆพอสมควรในโลกตะวันตก
ภาพสวยๆของนายกรัฐมนตรีหญิงที่ขอดุอาร์เป็นสัญลักษณ์ของ การผสมผสานระหว่างศาสนา อัตลักษณ์ และการเมือง ในสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งสะท้อนว่าผู้นำสามารถรักษาอัตลักษณ์ของตนเอง พร้อมทั้งสร้างความสมดุลในการบริหารประเทศที่มีความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรมได้อย่างสง่างาม เราเอง(มุสลิมบางคน) อาจจะต้องปรับมุมคิดและยอมรับเรื่องสังคมพหุวัฒนธรรมมากขึ้น เราให่เกียรติเพื่อน รู้จัก รู้ใจเพื่อน ซึ่งเพื่อนก็จะให้เกียรติเราเช่นกัน
สนง.จุฬาฯ มีฝ่ายวาซาฏียะห์ (ทางสายกลาง) เป็นฝ่ายที่ทำหน้าที่ปิดทองหลังมิมบัรได้อย่างดีเยี่ยม ในเรืองพหุวัฒนธรรม ซึ่งส่วนตัวคิดว่ามุสลิมจะมีเสน่มากขึ้นถ้าได้ความกระจ่างชัดเรื่องสังคมพกุวัฒนธรรม
ปล. ในงานผมได้สนทนากับผู้ใหญ่ที่เคารพรัก บอกผมว่า ทำไมโครงการวาซาฎียะห์ชวนไปสัมนาวิชาการที่อุเบกิสถาน ถึงตัดสินใจยากเย็นจริงๆ ผู้ใหญ่ท่านกล่าวอีกว่า “กลับไปคิด งานนีัไม่พวกพลาด” โอกาสไม่น่าจะมีอีกแล้ว
https://news.muslimthaipost.com/news/38979
- วาทกรรมอาหารฮาลาล: ซาอุฯ ชาติไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และนิยามใหม่ของฟุตบอลโลก 2034
- วาทกรรมอาหารฮาลาล: ความภูมิใจในอัตลักษณ์ความศรัทธาของมุสลิมไทย
- นโยบาย LGBTQ+ ของปธน.ทรัมป์ กับการสมรสเท่าเทียมของไทย
- ตะลึง! นางกวักคลุมหัว ระบาดหนัก
- ทำความเข้าใจกับ เซคิวลาริสม์ ระบบความคิด แยกรัฐกับศาสนา
- 10 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาหารฮาลาล คำตอบง่ายๆ ที่เข้าถึงและกระจ่างชัด ทำไม?
- อาหารฮาลาลกับสุขภาพ ความสัมพันธ์ที่ถูกประกอบสร้างอย่างเหลือเชื่อ