รัฐมนตรีขวาจัด ประจำกระทรวงความมั่นคงภายในอิสราเอล ถูกประณามว่า สร้างการยั่วยุ และทำสิ่งที่เป็นอันตราย หลังจากที่เขาเดินทางไปยังมัสยิดอัลอักซอ
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: ซาอุดิอาระเบีย-ชาติอาหรับ ประณามรมว.ขวาจัดยิวเยือนมัสยิดอัลอักซอ
นายอิตามาร์ เบน-กวีร์ รัฐมนตรีขวาจัด ประจำกระทรวงความมั่นคงภายในอิสราเอล ถูกประณามว่า สร้างการยั่วยุ และทำสิ่งที่เป็นอันตราย หลังจากที่เขาเดินทางไปยังมัสยิดอัลอักซอ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
การเยือนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เขาได้เข้าร่วมกับรัฐบาลใหม่ของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู การเยือนนี้เป็นการท้าทายความรู้สึกของชาวมุสลิม และชาวปาเลสไตน์ รวมถึงท้าทายอำนาจอธิปไตยของอิสลาม และชาวอาหรับเหนือพื้นที่ อัล-ฮะรอม อัล-ชารีฟ (พื้นที่ทั้งหมดที่เป็นที่ตั้งของมัสยิดอัล-อักซอ และอาคารอื่น ๆ บนนั้นทั้งหมด)
สถาบันสำคัญ ๆ ของอิสลาม และเจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ อิสลามและอาหรับ ต่างประณามความเคลื่อนไหวดังกล่าว เช่นเดียวกับการประณามการจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีของอิสราเอล ที่จัดขึ้นภายในอุโมงค์ใต้กำแพงตะวันตก
นายเบน-กวีร์ เข้าไปที่ลานมัสยิดอัลอักซอ และยังปฏิบัติศาสนกิจของชาวยิว ในพื้นที่ด้านตะวันออกของลานดังกล่าว และบริเวณ บ๊าบ อัล-เราะฮ์มะฮ์ เป็นเวลาราว 30 นาที ร่วมกับหัวหน้าผู้จัดการ “องค์กรเทมเพิ่ล เมาท์ (Temple Mount Organization)” เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
เขายังกล่าวข้อความที่ยั่วยุ ว่า “การคุกคามของฮามาสไม่ได้ขัดขวางเราจากการอยู่ที่นี่ เราเป็นเจ้าของสถานที่บน Temple Mount และสิ่งนี้เป็นของเรา ไม่ใช่ของใครอื่น และมันสำคัญสำหรับทุกคน”
คณะรัฐมนตราของอิสราเอล นำโดยนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู จัดการประชุมประจำสัปดาห์ ที่กำแพงตะวันตก (ซึ่งอยู่ด้านล่างของที่ตั้งมัสยิดอัลอักซอ) โดยเนทันยาฮู กล่าวว่า “การประชุมของเราที่นี่ในวันนี้ เป็นการส่งข้อความถึง อะบู เมเซ็น (Abu Mazen หรือประธานาธิบดี มะฮ์มู้ด อับบาส ของปาเลสไตน์) ซึ่งกล่าวที่สหประชาชาติว่า ชาวยิวไม่มีความเชื่อมโยงกับเยรูซาเล็ม และว่า ทางตะวันออกของเยรูซาเล็ม เป็นพื้นที่ของทางการปาเลสไตน์ มาตั้งแต่เมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว” “เยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของพวกเรา ที่มีอยู่ก่อนที่จะมีกรุงลอนดอน และกรุงวอชิงตัน เสียอีก”
กระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ประณามการขึ้นมาที่บริเวณมัสยิดอัลอักซอ ของนายเบ็น-กวีร์ ว่าเป็นการละเมิดบรรทัดฐานและพันธสัญญาระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง และเป็นการยั่วยุความรู้สึกของชาวมุสลิมทั่วโลก กองกำลังอิสราเอลต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อผลสะท้อนกลับของการละเมิดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
รัฐบาลอิสราเอลได้จัดสรรงบประมาณ 1 ล้านดอลล่าร์ เพื่อสนับสนุนให้พวกยิวหัวรุนแรงเข้าไปในมัสยิดอัล-อักซอ และ 4.6 ล้านอลล่าร์ เพื่อสนับสนุนการขุดค้นด้านล่างและดูแลอุโมงค์ที่มีอยู่
ฮาเซม กาสเซ็ม โฆษกฮามาสกล่าวว่า การประชุมประจำสัปดาห์ของรัฐบาลอิสราเอล เป็นการยกระดับเพื่อให้เกิดสงครามศาสนา ในขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลได้ตัดสินใจอนุญาตให้ผู้ตั้งถิ่นฐาน กลุ่มที่เคยถูกสั่งให้ย้ายออกจากนิคมโฮเมช (Homesh) ซึ่งอยู่ทางเหนือของเขตเวสต์แบ๊งก์ ในปี 2005 กลับไปยังนิคมดังกล่าวได้อย่างเป็นทางการ
วันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา สภา Knesset ของอิสราเอล ได้อนุมัติกฎหมายแยกดินแดน ซึ่งอนุญาตให้ผู้ตั้งถิ่นฐานสามารถกลับไปตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ 4 แห่งในเขตเวสต์แบ๊งก์ หลังจากที่ต้องอพยพออกไปในปี 2005 ซึ่งเท่ากับเป็นการสร้างความชอบธรรมในการยึดครองพื้นที่ด่านหน้า ทางตอนเหนือของเขตเวสต์ แบ๊งก์
นายโมฮัมเหม็ด อะเซ็ม นายกเทศมนตรีเมืองเซบาสเตีย (Sebastia) กล่าวว่า อิสราเอลต้องการดำเนินโครงการที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้เป็นของศาสนายูดาย โดยจะเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดสำหรับแหล่งโบราณคดีในเมืองประวัติศาสตร์เซบาสเตีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเนบลัส (Nablus) ในเขตเวสต์แบงก์ ด้วยการทุ่มงบประมาณให้ถึง 10 ล้านดอลล่าร์
เขากล่าวว่า จะทำให้เมืองแห่งประวัติศาสตร์นี้ กลายเป็นเมืองที่เน้นความเป็นมาของศาสนายูดาย และจะจำกัดการท่องเที่ยวในเมืองนี้ ไว้ให้เฉพาะผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิว โดยไม่ให้ชาวบ้านชาวปาเลสไตน์มีส่วนสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในเมืองนี้
ทั้งนี้ ชาวเมืองเซบาสเตีย หลายสิบครอบครัว มีรายได้จากการจัดการท่องเที่ยว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจด้วย
เมืองเซบาสเตีย เป็นเมืองหลวงของชาวโรมันในปาเลสไตน์ มีความโดดเด่นด้วยตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ ซึ่งเชื่อมต่อเขตการปกครอง 3 แห่งในฝั่งตะวันตกตอนเหนือ ได้แก่ เนบลัส, ตัลกาเร็ม และเญนิน นอกจากนี้ ยังอยู่บนเส้นทางแสวงบุญของชาวคริสต์ จากกรุงเยรูซาเล็ม เบธเลเฮม บ่อน้ำของยาคอป และนาซาเร็ธ
เมืองนี้เต็มไปด้วยสถานที่ทางโบราณคดีหลายสิบแห่ง รวมถึงสุสานโรมัน หลุมฝังศพของท่านศาสดายะฮ์ยาและมัสยิดของท่าน มหาวิหารจอห์น ผู้ให้ศีลบัพติศมา พระราชวังอัล-เคย์ด ตลอดจนจัตุรัสบาซิลิกา พระราชวัง หอคอยกรีกโบราณ วิหารออกัสตัส โรงละคร ถนนแห่งเสา (Coulumn Street) และสนามกีฬาโบราณ
ที่มา: www.arabnews.com
https://news.muslimthaipost.com/news/37335
- 6 องค์กรมุสลิมแคนาดา ขอให้ระงับห้ามละหมาดในโรงเรียนรัฐ
- มกุฎราชกุมารบาห์เรน ระงับเปลี่ยนหลักสูตรเชื่อมอิสราเอล
- อิสราเอลร้องขอ จัดเที่ยวบินตรง อ้างมุสลิมปาเลสไตน์ทำฮัจญ์
- แต่งตั้งผู้พิพากษามุสลิมหญิงคนแรก ประจำท้องถิ่นเอดิสัน
- โปรดระวัง แก๊งแอบจัดฮัจย์ มาเลเซียเตือนมุสลิมอย่าหลงกล
- หญิงมุสลิมเชื้อสายปาเลสไตน์คนแรก ขึ้นเป็นส.ส.รัฐจอร์เจีย
- กษัตริย์ซัลมาน ส่งสาส์นเชิญ ปธน.ซีเรียร่วมประชุมสุดยอดอาหรับ
- ราชินีราเนียแห่งจอร์แดน จัดใหญ่ก่อนอภิเษกฯ มกุฎราชกุมารกับสาวซาอุฯ
- ซาอุฯจ่อปิด โรงเรียนสอนภาษาอาหรับ-อิสลามในลอนดอน
- สุสานมุสลิมเคปทาวน์ เปิดอีกครั้งหลังปิด 127 ปี
- ซาอุดิอาระเบีย บูรณะมัสยิดโบราณในตูนีเซีย