แอลกอฮอล์ ในหลักการอิสลาม เมื่อพูดถึงแอลกอฮอล์คนส่วนใหญ่ มักจะนึกถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่นเหล้า เบียร์ วิสกี บรันดี ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ ในหลักการอิสลาม
บทความโดย: นางสาวอรพรรณ บุตรดํารงค์
เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ ฝ่ายกิจการฮาลาล สํานักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
- โทษของสุราในอิสลาม ดูซิว่ายังกล้าดื่มอีกไหม?
- ธุรกิจต้องห้ามสำหรับการเงินอิสลาม
- แอลกอฮอล์ถือเป็นนะญิสหรือไม่?
- มุสลิมสูบกัญชาคลายเครียด ได้หรือไม่?
เมื่อพูดถึงแอลกอฮอล์คนส่วนใหญ่ มักจะนึกถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่นเหล้า เบียร์ วิสกี บรันดี ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ ชนิดเอทานอลนั่นเอง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แต่ละประเภทจะมีปริมาณของเอทานอลแตกต่างกันเมื่อรับประทานจะทําให้เกิดอาการมึนเมา
แต่ในทางศาสนาอิสลามมีข้อห้ามเกี่ยวกับเครื่อง ดื่มแอลกอฮอล์ อิสลามห้ามดื่มเครื่องมันเมาทุกชนิดโดยไม่คำนึงว่ามันทํามาจากอะไรหรือดื่มมากน้อยแค่ไหน เพราะอิสลามถือว่า การดื่มมากเป็นสาเหตุทําให้เมา
จากท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฏิยัลลอฮ์อันฮา กล่าวว่า ท่านรอสูลุลลอฮ์ (ซ.ล.) ถูกถามถึงเรื่องอัลบิตอิ - เครื่องดื่มจากน้ำผึ้ง - ท่านรอสูลุลลอฮ์ (ซ.ล.) กล่าวว่า :
"ทุกสิ่งที่ดื่มแล้วมึนเมา สิ่งนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องห้าม (หะรอม)"
(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ หมายเลขหะดีษ 5586 สำนวนฮาดีษเป็นของท่านและมุสลิม หมายเลขหะดีษ 2001)
- น้ำกระท่อมในอิสลาม ถือเป็นสิ่งหะรอมหรือไม่?
- มุสลิมเล่นหวยบาปหรือไม่? อย่าลืมแชร์ให้คอหวยได้รับรู้!!
- เหตุใด น้ำกระท่อม จึงเป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลาม
ก่อนอื่นเรามาทําความรู้จักกับคําว่า แอลกอออลล์ กันก่อน แอลกอฮอล์ เป็นสารประกอบอินทรีย์ชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นของเหลวใส กลิ่นฉุน ระเหยง่าย จุดไฟติด
ซึ่งเกิดจากการหมักสารประเภทแป้งหรือน้ำตาลผสมยีสต์ หรือเกิดจากการเกิดปฏิกิริยาจากวัตถุดิบจําพวกผลไม้และธัญพืช ชนิดแอลกอฮอล์ที่เรากําลังพูดถึง คือ เอทานอล ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ที่ได้จากการหมักของพืชผลทางการเกษตร เช่น อ้อย, มันสําปะหลัง, ข้าว, ข้าวโพด เป็นต้น
แอลกอฮอล์ชนิดนี้นิยมนํามาใช้ทําเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยในท้องตลาดเราจะเห็นได้ว่ามีการจําหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันมากมาย และมีหลายประเภท ซึ่งบางประเภทเราไม่ค่อยคุ้นชิน จึงอาจมีผลต่อการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆได้ เพราะผลิตภัณฑ์บางอย่างอาจมีส่วนผสมของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นได้
ในที่นี้เราจะมาพูดถึงประเภทของเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์เพื่อเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอล์ผสมแบ่งได้ตามประเภทดังนี้
1. Aperitif (แอพเพอริทีฟ) เป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นที่นิยมมากในประเทศ (ฝรั่งเศษ,อิตาลี) เครื่องดื่มชนิดนี้ส่วนมากทํามาจาก (เหล้าองุ่นและสมุนไพร) แบ่งเป็น 3 ชนิด
1.1 Vermouth (เวอร์มุท) เป็นเหล้าที่ทํามาจากไวน์ 80% และอีก 20% ส่วนผสมของบรั่นดี น้ําองุ่น สมุนไพร เครื่องเทศ และรากไม้
เวอร์มุทจะแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ หวาน (Sweet) และ ไม่หวาน (Dry) ยี่ห้อที่เห็นบ่อยในเมือไทย เช่น Martini, Cinzano , Noilly Prat
1.2 Anis (เอนิส) เป็นเครื่องดื่มทํามาจากโป๊ยกั๊ก มีรสหอมหวาน ตัวอย่างเช่น Pernod, Ricard และ Dubonne
1.3 Bitter (บิทเตอร์) เป็นเหล้าที่มีวิธีการทําคล้ายกับเวอร์มุท แต่เข้มข้นกว่า มีรสชาติขม แบ่งได้ 2 ชนิด คือ
ชนิดแรก เป็นชนิดที่มีรสขมมาก ไม่สามารถดื่มโดยตรงได้จะต้องผสมกับเครื่องดื่มกับตัวอื่น ตัวอย่างเช่น Angostura Bitter และ Underberg
อีกชนิด คือ มีรสชาติหอมหวานและขมน้อยกว่าชนิดแรกสามารถ ดื่มเป็นเครื่องดื่มในตัวได้ ตัวอย่าง เช่น Campari และ Amer Picon
2. Spirit (สปิริต) เป็นสุราที่มาจากการกลั่นทั้งหมด ได้แก่
2.1 Brandy (บรั่นดี) เป็นสุราที่ได้จากหมักโดยองุ่นและนําไปบ่มให้มีกลิ่นและรสชาติ เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน มีหลายชนิด ทั้งบรั่นดีผลไม้,บรั่นดีระดับสูง,บรั่นดีพื้นเมืองโดยคุณภาพจะอยู่ที่อายุของบรั่นดียิ่งนานยิ่งรสชาติดี
2.2 Whisky (วิสกี้) คือ สุราที่ทําจากข้าวหรือข้าวโพด โดยการนํามาหมักบ่มในถังโอ๊คเพื่อให้มีกลิ่นและรสชาติที่ดีก่อนนํามาบรรจุขวด ต้องอาศัยระยะเวลาที่ยาวนานวิสกี้นิยมกันมากทั่วโลกซึ่งในประเทศไทยมีแบรนด์ชั้นนําเช่น (Johnny Walker)เป็นบรั่นดีนําเข้าจากต่างประเทศ เป็นต้น
3. Gin (จิน) เป็นเหล้าที่กลั่นมาจากข้าว แล้วผสมจูนิเปอร์ (Juniper Berries) เพื่อได้รสชาติและกลิ่นที่หอม บางครั้งก็จะผสมกับสมุนไพร เครื่องเทศ และเปลือกผลไม้ประเภทรสเปรี้ยว สมัยก่อนเป็นเครื่องดื่มที่มีรสและกลิ่นของจูนิเปอร์ที่เข้มข้นมาก จินที่พบกันบ่อยมีอยู่ 2 ชนิดคือ
3.1 จิน ที่ทํามาจากประเทศฮอลแลนด์ ซึ่งจะมีรสชาติที่เข้มข้นของผลจูนิเปอร์มากนิยมดื่มโดยไม่ผสมแต่จะแช่เย็นให้จัดแล้วดื่ม
3.2 จิน ที่ทํามาจากประเทศอังกฤษและอเมริกานิยมใช้เป็นเครื่องดื่มผสมจะมีรสชาติของผลจูนิเปอร์น้อยกว่าจินที่ผลิตจากประเทศฮอลแลนด์ จินจากประเทศอังกฤษและอเมริกาก็ยังผสมสมุนไพรและเครื่องเทศ ทําให้มีรสชาติกลมกล่อม ยี่ห้อที่เห็นกันบ่อยในประเทศไทย เช่น Beefeater , Gordon และ Gilbey 's
4. Rum (รัม) เป็นเหล้าที่กลั่นมาจากน้ำอ้อยที่หมักแล้ว
สามารถแบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ
4.1 รัมสีขาว (white rum ) บางครั้งเรียกว่า Light Bodied rum หรือ silver rum เป็นรัมที่มีสีสันสดใสไม่ผ่านการบ่มหรืออาจผ่านการบ่มเป็นระยะสั้น แต่ก็ต้องผ่านการกรองเพื่อกำจัดสีออก
4.2 รัมสีทอง (Gold rum ) บางครั้งเรียกว่า Medi Bodied rum เป็นรัมสีเหลืองอ่อนใส สี ได้จากการบ่มในถัง หรือการเติมคาราเมล (ได้จากการเคี่ยวน้ำตาลจนได้สีดําเกือบไหม้) Goldrum จะมีรสชาติและกลิ่นหอม ดีกว่า white rum
4.3 รัมสีดํา ( Dark rum ) บางครั้งเรียกว่า Full Bldied rum เป็นรัมที่มีสีน้ำตาลเกือบดํา ก็เช่นเดียวกับ Gold rum สีอาจได้จากการบ่มในถังไม้เป็นระยะเวลานาน หรือสีได้จากคาราเมลรสชาติและกลิ่นหอมจะดีกว่า Gold rum รัมเป็นที่นิยมใช้ในการผสมค็อกเทลเป็นจํานวนมาก ดื่มแบบไม่ผสมเสิร์ฟ กับน้ำแข็งผสมกับโค้กหรือแม้แต่นํามาใช้ทําอาหาร เช่น ซอส เค้ก ไอศครีม และอื่นๆ อีกมากมาย
5. Vodka (วอดก้า) เป็นเหล้าที่ทํามาจากหลายวัตถุดิบ เช่น ข้าว มันฝรั่ง ข้าวโพด
วอดก้า ผลิตจากการหมักวัตถุดิบข้างต้นแล้วนํามากลั่น หลังจากนั้นก็นํามาผ่านการกรองวอดก้าผลิต จากหลายประเทศ แต่ที่เห็นบ่อยคือจากประเทศรัสเซียและโปรแลนด์ มียี่ห้อที่เห็นบ่อยในเมืองไทย เช่น Borzoi, Smirnoff, Stolitchanaya, Abosolu
6. Tequila (เตกีล่า) เป็นเหล้าสีขาวกลิ่นแรงมาก ผลิตในประเทศเม็กซิโก ทํามาจากพืชชื่อ Agave (เป็นกระบองเพชรชนิดหนึ่ง) เตกีล่า นํามาใช้มากในการทําเครื่องดื่มค็อกเทล เช่น Margarita ยี่ห้อที่เห็นกันมากในประเทศไทย คือ E-Toro , Pepe Lopes
7. Wine (ไวน์) เป็นเครื่องดื่มแอลกอออลล์ที่ได้จากการหมักผลไม้ชนิดต่างๆโดยส่วนมากใช้จะใช้องุ่นมาหมักกับยีสต์ทําให้น้ำตาลในองุ่นเปลี่ยนเป็นเอททานอลและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งพันธุ์ขององุ่นและสายพันธุ์ของยีสต์ที่แตกต่างกันทําให้ได้ไวน์คนละแบบ โดยสามารถแบ่งได้ 3 แบบดังนี้
7.1 ไวน์ขาว (White Wine ) เป็นไวน์ที่ได้จากองุ่นทั้งแดงและขาว สีของไวน์ขาว มีตั้งแต่เหลืองซีดจนถึงเหลืองเข้ม มีรสชาติฝาดเหมือนไวน์แดง
7.2 ไวน์แดง ( Red wine ) เป็นไวน์ที่ทํามาจากองุ่นแดง สี ไวท์แดงมีตั้งแต่แดงอ่อนถึงแดงเข้ม สีแดงของไวน์แดงได้มาจากผิวองุ่นแดงระหว่างการหมักรสชาติฝาดนั้นมาจากสารชื่อว่า Tanin ซึ่งมีอยู่ในเปลือก เมล็ด และก้านขององุ่น
73 ไวน์ชมพู ( Rose wine ) เป็นไวน์ที่ทํามาจากองุ่นแดง เปลือกองุ่นแดง ในช่วงเวลาการหมักเพียงระยะเวลาสั้น แล้วน้ำออก ดังนั้นสีแดงจากเปลือกองุ่นจึง มีไม่มาก ทําให้ไวน์สีชมพู มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานแต่ฝาดเล็กน้อย
เป็นไงบ้างค่ะสําหรับข้อมูลเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หวังว่าคงจะเป็นเกร็ดความรู้ให้กับผู้อ่านไม่มากก็น้อยในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆในท้องตลาด เพื่อให้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อไม่มีส่วนผสมของเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์อยู่
สุดท้ายนี้ขอฝากหะดีษทิ้งท้ายเพื่อให้ตระหนักถึงโทษของ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังหะดีษของท่านรอซูล (ซ.ล.) ที่ กล่าวว่า :
" ผู้ใดจิบเหล้า หรือดื่มเพียงอึกเดียว อัลลอฮ์จะไม่รับการละหมาดของเขา 3 วัน (ทั้งสุนัตและฟัรฎู) และผู้ใดดื่มเหล้าหนึ่งจอก (แก้ว) อัลลอฮ์จะไม่รับการละหมาดของเขา 40 วัน และผู้ใดติดเหล้าในโลกนี้จนงอมแงม เขาจะต้องดื่มกินน้ำเลือดน้ำหนองของชาวนรก "
จากบันทึกของอัตติรมีซีย์, อัดฏ็อบรอนีย์และอัลฮาเก็ม