ประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ว่าด้วย การผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์ที่มัสยิด
สำนักจุฬาราชมนตรีประกาศผ่อนปรนละหมาดญะมาอะห์ ทำกิจกรรมที่มัสยิด ฉ.7/2563
ประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19)
ว่าด้วย การผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์ที่มัสยิดและการทํากิจกรรมบางอย่าง (ฉบับที่ ๗/๒๕๖๓)
ด้วยเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ในประเทศไทยมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น ซึ่งมีผลมาจากมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ โดยความร่วมมืออย่างมีประสิทธิภาพของประชาชนและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการให้ความร่วมมืออย่างดียิ่งของ พี่น้องมุสลิมในทุกพื้นที่ในการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ของจุฬาราชมนตรี และตามที่นายกรัฐมนตรี ได้ออกข้อกําหนดตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๘ (ฉบับที่ ๔) ลงวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อผ่อนคลายให้ดําเนินการหรือ ทํากิจกรรมบางอย่างได้ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนดนั้น จึงพิจารณาเห็นควรผ่อนปรนให้มีการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์
สําหรับมัสยิดที่มีความพร้อมในการปฏิบัติตามมาตรการที่กําหนด ดังนี้
๑. ให้คณะกรรมการอิสลามประจํามัสยิด ที่มีความประสงค์จะปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์ แจ้งคณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดในการปฏิบัติตามประกาศจุฬาราชมนตรี และมาตรการของคณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัด ตลอดจนมาตรการหรือคําแนะนําของทางราชการ เกี่ยวกับการป้องกันโรค
๒. สําหรับมัสยิด
๒.๑ ให้มีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามัสยิดทุกครั้ง
๒.๒ จัดวางเจลล้างมือแอลกอฮอล์ไว้บริเวณประตูทางเข้ามัสยิด
๒.๓ งดใช้บ่อน้ำ (กอเลาะห์) หรืออ่างใหญ่ร่วมกัน
๒.๔ ทําความสะอาดมัสยิด โดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสเป็นจํานวนมาก อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ ๑ - ๒ ครั้ง
และไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ โดยให้เปิดหน้าต่างมัสยิด ผ้าม่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
๒.๕ จัดทําเครื่องหมายจุดละหมาดที่สามารถระบุตําแหน่งได้ โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างแต่ละจุด ๑.๕๐ - ๒ เมตร
๒.๖ ควบคุมทางเข้า - ออกมัสยิด และจัดระเบียบระยะห่างขณะเดินเข้าและ เดินออกจากมัสยิดหลังเสร็จสิ้นการละหมาดญะมาอะห์
๒.๗ ให้มัสยิดจัดเตรียมแบบบันทึกให้ผู้มาร่วมละหมาดญะมาอะห์บันทึก ชื่อ - นามสกุล พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อความสะดวกในการติดตาม กรณีที่มีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น
๒.๘ ให้เปิดมัสยิดก่อนเวลาละหมาด ๑๕ นาที และปิดหลังจากละหมาดเสร็จ ๑๕ นาที
๒.๙ ให้มอัขซิน (บิหลั่น) อะซานด้วยสํานวนการอะซานตามปกติ โดยไม่ต้อง มีสํานวน (อัซซอลาตู้ฟีบุ้ยูตี้กุ้ม) สําหรับ มัสยิดที่จัดให้มีการละหมาดญะมาอะห์
๓. สําหรับผู้เข้าร่วมปฏิบัติศาสนกิจละหมาดญะมาอะห์
๓.๒ อาบน้ำละหมาดจากที่บ้าน
๓.๒ ใช้ผ้าปูละหมาด (ผ้าซะญาดะห์) ส่วนตัว โดยนำมาจากบ้าน
๓.๓ สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติศาสนกิจ
๓.๔ งดการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และการสัมผัสแก้มโดยให้ยกมือพร้อมกล่าวสลามเท่านั้น
๓.๕ หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก แม้จะมีอาการไม่มาก ให้งดการไปร่วมละหมาดญะมาอะห์ที่มัสยิด
๓.๖ เว้นระยะห่างระหว่างแถวและในแถว ๑.๕๐ - ๒ เมตร และให้ยืนตามจุดที่มัสยิดได้จัดทําเครื่องหมายไว้
๓.๗ ผู้มาร่วมละหมาดญะมาอะห์ที่มัสยิดต้องบันทึกชื่อ - นามสกุลพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ ลงในแบบบันทึกที่มัสยิดจัดเตรียมไว้ทุกครั้ง
๔. การละหมาดญะนาซะห์และการทํากิจกรรมบางอย่าง
๔.๑ การละหมาดญะนาซะห์ ให้ใช้มาตรการเดียวกับการละหมาดญะมาอะห์
๔.๒ กรณีที่จําเป็นต้องรวมกันเป็นกลุ่ม เช่น การทําพิธีนิกะห์ ควรจํากัด จํานวนผู้เข้าร่วมไม่เกิน ๕๐ คน พร้อมกับต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) ขอให้พี่น้องมุสลิมได้ขอดุอากุหนูตนาซิละห์ ในทุกเวลาละหมาดญะมาอะห์ จึงใคร่ขอความร่วมมือ มายังคณะกรรมการอิสลามประจํามัสยิดได้ดําเนินการภายใต้การกํากับดูแลของคณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัด และให้ถือปฏิบัติจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติหรือจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ประกาศ ณ วันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓
(นายอาศิส พิทักษ์คุมพล)
จุฬาราชมนตรี