แม้ศาสนามีมาก่อนที่มนุษย์จะรู้จักคำว่าวิทยาศาสตร์ แต่เมื่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าจนสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้
เริ่มแรกของศาสนาคือการรู้จักพระเจ้า
บทความโดย: อ.บรรจง บินกาซัน
แม้ศาสนามีมาก่อนที่มนุษย์จะรู้จักคำว่าวิทยาศาสตร์ แต่เมื่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าจนสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ได้ คนรุ่นใหม่จึงมีแนวโน้มหันหลังให้ศาสนา ไม่เพียงเท่านั้น บางคนยังปฏิเสธศาสนาด้วย
แต่เนื่องจากศาสนามาจากพระเจ้า การปฏิเสธศาสนาจึงจำเป็นต้องปฏิเสธการมีอยู่ของพระเจ้าด้วย ในอดีต เคยมีคนเคยปฏิเสธพระเจ้ามาแล้ว อย่างเช่นฟาโรห์ แต่ผลของการปฏิเสธพระเจ้าก็คือศพของเขาได้ถูกเก็บไว้ในรูปของมัมมี่เพื่อเป็นหลักฐานเตือนคนรุ่นหลังให้เห็นถึงผลของความโอหังตั้งตัวเองเป็นพระเจ้าและปฏิเสธพระเจ้าที่แท้จริง
ปัจจุบัน แม้จะไม่มีคนอย่างฟาโรห์ให้เราเห็น แต่ยังมีคนกลุ่มหนึ่งไม่เชื่อในการมีอยู่ของพระเจ้าเหมือนฟาโรห์ แต่ไม่มีโอกาสได้มีอำนาจเหมือนฟาโรห์
ศาสนาเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งรอบข้างมนุษย์ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต
เนื่องจากศาสนามาจากพระเจ้า การรู้จักและการศรัทธาในพระเจ้าจึงเป็นจุดเริ่มต้นของศาสนา ไม่ต่างจากใครที่ต้องการเรียนภาษา สิ่งแรกที่ผู้เรียนต้องรู้จักและเชื่อก่อนอื่นใดก็คือพยัญชนะ การเชื่อในพยัญชนะโดยไม่ต้องพิสูจน์ทำให้ผู้เรียนสามารถนำพยัญชนะไปสะกดเป็นคำและนำคำต่างๆไปสร้างประโยคเพื่อการติดต่อสื่อสารกันได้
ถ้าการเริ่มต้นเรียนรู้ภาษาไทยต้องรู้จักพยัญชนะไทยทั้ง 44 รูปฉันใด การเริ่มต้นเรียนรู้อิสลามก็จำเป็นต้องรู้จักพระนามของพระเจ้าที่มี 99 พระนามที่แสดงถึงคุณสมบัติของพระองค์ฉันนั้น ถ้าความเชื่อมั่นในพยัญชนะทำให้ผู้เรียนสามารถใช้ภาษาได้อย่างมั่นใจเช่นใด ความเชื่อมั่นในพระนามของพระเจ้าก็ทำให้ผู้รู้จักพระนามของพระองค์ใช้ชีวิตด้วยความมั่นใจเช่นกัน
แม้พระเจ้าเป็นสิ่งที่สายตาของมนุษย์มองไม่เห็นเหมือนตัวพยัญชนะ แต่การมองสิ่งใดไม่เห็นมิได้หมายความว่าสิ่งนั้นไม่มี
เมื่อศาสนาเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า พระเจ้าจึงสอนมนุษย์ให้รู้จักพระนามต่างๆของพระองค์ตั้งแต่ตอนสร้างอาดัม เมื่ออาดัมมายังโลกนี้และมีลูกหลานแพร่กระจายไปบนหน้าแผ่นดิน พระเจ้าได้บอกให้มนุษย์รู้จักพระนามของพระองค์มาโดยตลอดซึ่งเราจะเห็นได้ในคัมภีร์ทางศาสนา
ตัวอย่างเช่น พรหม ในคัมภีร์พระเวท พรหมแปลว่าผู้สร้าง ในภาษาอาหรับ พระนามหนึ่งของพระเจ้าก็คือ “อัลคอลิก” ซึ่งแปลว่าผู้สร้างเหมือนกัน พระเจ้าแนะนำพระองค์ว่าเป็นผู้สร้างทุกสรรพสิ่งเพื่อให้มนุษย์ได้รู้จักสถานะของตัวเองว่าเป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้างมาเหมือนกับสิ่งอื่นๆ แลพเนื่องจากมนุษย์เป็นสิ่งถูกสร้างที่ประเสริฐที่สุด พระเจ้าจึงไม่อนุญาตให้มนุษย์กราบไหว้บูชาสิ่งใดนอกจากพระองค์
คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์ตามแบบฉายาของพระองค์ มนุษย์จึงสามารถรู้จักคุณสมบัติของพระเจ้าได้จากสิ่งที่มนุษย์มีอยู่ในตัวตน ถ้ามนุษย์มองเห็น พระเจ้าก็มองเห็น เพียงแต่การมองเห็นของมนุษย์มีขีดจำกัดในขณะที่การมองเห็นของพระเจ้าไม่มีขีดจำกัด ถ้ามนุษย์ได้ยิน พระเจ้าก็ได้ยิน เพียงแต่การได้ยินของมนุษย์มีขีดจำกัด แต่การได้ยินของพระเจ้าไม่มีขีดจำกัด
พระเจ้ามีคุณสมบัติแห่งความเมตตาสงสาร ดังนั้น พระเจ้าจึงประทานคุณสมบัตินี้ให้แก่มนุษย์เช่นกัน แต่เนื่องจากความเมตตาสงสารเป็นนามธรรม พระองค์จึงให้มีคนทุกข์ยากลำบากเพื่อให้มนุษย์แสดงออกถึงคุณสมบัติอันดีงามของพระเจ้าออกมาโดยการหยิบยื่นความช่วยเหลือและเพื่อเป็นการพัฒนาวิญญาณให้สูงส่ง
พระเจ้าแนะนำพระองค์ว่าเป็นผู้ทรงให้อภัย และพระองค์ได้ประทานคุณสมบัตินี้ให้แก่มนุษย์ แต่การให้อภัยที่เป็นการพัฒนาจิตวิญญาณอย่างหนึ่งไม่อาจเกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีคนทำผิดหรือคนยั่วให้โกรธ
การศรัทธาในพระเจ้าเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในคำสอนของศาสนา แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดในการทำความเข้าใจ ถ้ามนุษย์ไม่รู้จักพระเจ้าและไม่ยอมรับคุณสมบัติของพระองค์ มนุษย์ก็ไม่ต่างไปจากนักเรียนที่ไม่รู้จักพยัญชนะของภาษา การจะหาความรู้ทางศาสนาเพื่อเป็นทางรอดของวิญญาณต่อไปก็คงเป็นเรื่องลำบาก