ก่อนเกิดการเหยียดผิวชังพันธุ์ โลกเคยมีระบบวรรณะที่คนในวรรณะสูงรังเกียจเดียดฉันท์คนในวรรณะต่ำและปฏิบัติต่อคนในวรรณะต่ำเหมือนกับไม่ใช่คน
ที่มาของโรคเหยียดผิวชังพันธุ์
บทความโดย: อ.บรรจง บินกาซัน
ความรู้สึกเหยียดผิวชังพันธุ์ เป็นมลทินที่ทำให้จิตใจของมนุษย์ด่างพร้อยมานานหลายพันปีแล้ว แม้โลกจะเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ แต่จิตใจของมนุษย์กลับเสื่อมทรามทางศีลธรรม ไม่น่าเชื่อว่า ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา แม้ว่ามนุษย์ทุกชนชาติและสีผิวล้วนมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์อารยธรรมของโลกมาด้วยกัน แต่ความรู้สึกเหยียดผิวชังพันธุ์ยังไม่หมดไปจากจิตใจมนุษย์
ความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการที่คนกลุ่มหนึ่งถือว่าตัวเองหรือเผ่าพันธุ์ของตนเองมีความเหนือกว่ามนุษย์คนอื่นด้วยกัน คนที่มีความรู้สึกเช่นนี้จะแสดงท่าทีโอหังและกดขี่หรือดูถูกเหยียดหยามคนอื่นออกมาให้เห็นหากมีโอกาส
ก่อนเกิดการเหยียดผิวชังพันธุ์ โลกเคยมีระบบวรรณะที่คนในวรรณะสูงรังเกียจเดียดฉันท์คนในวรรณะต่ำและปฏิบัติต่อคนในวรรณะต่ำเหมือนกับไม่ใช่คน
ความรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าผู้อื่นนี้ คัมภีร์กุรอานกล่าวว่า เป็นอาการหรือท่าทีของซาตาน
คัมภีร์กุรอานได้เล่าเรื่องการสร้างมนุษย์ว่า เมื่อพระเจ้าสร้างอาดัมขึ้นมา พระองค์ได้บัญชาให้ทุกสรรพสิ่งในอาณาจักรของพระองค์ก้มกราบต่ออาดัม สิ่งถูกสร้างทั้งหมดที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตต่างปฏิบัติตามคำบัญชาของพระเจ้า ยกเว้นอิบลีสตัวแทนของซาตานเท่านั้นที่ไม่ยอมทำตาม
เมื่อพระเจ้าถามมันว่าอะไรที่ขัดขวางมันไม่ให้ทำตามคำบัญชา อิบลีสได้ตอบพระเจ้าว่าอาดัมถูกสร้างมาจากดิน ส่วนมันถูกสร้างมาจากไฟที่เหนือกว่าดิน มันจึงไม่ยอมก้มกราบต่ออาดัมตามคำบัญชาของพระเจ้า การถือว่าตัวเองมีต้นกำเนิดที่เหนือกว่าผู้อื่นนี้เองที่ทำให้อิบลีสโอหังไม่ยอมทำตามคำบัญชาของพระเจ้าทั้งๆที่มันก็ถูกพระเจ้าสร้างมาเช่นเดียวกับอาดัม แต่ความรู้สึกในเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นในหมู่ทูตสวรรค์ที่ถูกสร้างมาจากแสงสว่างที่เหนือกว่าไฟ
เมื่ออยู่ในอาณาจักรของพระเจ้า แต่โอหังบังอาจไม่ยอมเชื่อฟังเจ้าของอาณาจักร พระเจ้าจึงจะลงโทษมัน แต่มันขอพระเจ้าให้ประวิงเวลาการลงโทษไว้ก่อนและมันจะพิสูจน์ให้พระองค์เห็นว่ามนุษย์ผู้เป็นลูกหลานของอาดัมที่พระองค์ยกย่องนั้นมีน้อยคนนักที่เชื่อฟังคำบัญชาของพระองค์
เรื่องราวการสร้างอาดัมมีอยู่ในคัมภีร์ไบเบิลที่ลูกหลานอิสราเอลได้รับมาตั้งแต่สมัยโมเสส ชาวยิวและชาวคริสเตียนรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
เมื่อนบีมุฮัมมัดเริ่มเผยแผ่อิสลามในมักก๊ะฮฺ คนที่หันมาเข้ารับอิสลามส่วนใหญ่เป็นคนยากจนระดับล่างและทาสผิวดำจากอาฟริกา ในจำนวนนี้มีทาสผิวดำคนหนึ่งชื่อบิลาลซึ่งเป็นชาวอบิสสิเนีย บิลาลศรัทธาในคำสอนของนบีมุฮัมมัดและถูกทรมานอย่างหนักจากนายของเขา เมื่อนบีมุฮัมมัดทราบข่าว ท่านได้สั่งให้สาวกคนหนึ่งนำเงินไปไถ่ตัวบิลาลออกมา บิลาลจึงเป็นสาวกผิวดำคนแรกๆที่อยู่เคียงข้างกับนบีมุฮัมมัดในการเผยแผ่อิสลาม
เมื่อนบีมุฮัมมัดอพยพไปยังเมืองมะดีนะฮฺ ท่านได้นำคำสอนไปเผยแผ่ในหมู่ลูกหลานอิสราเอลที่อาศัยอยู่ที่นั่นมาก่อน ท่านได้บอกลูกหลานอิสราเอลว่าคำสอนที่ท่านนำมาเป็นคำสอนเดียวกับที่บรรพบุรุษของลูกหลานอิสราเอลนำมาสอนกันตั้งแต่อับราฮัม โมเสส เดวิด เยซัส และท่านคือศาสนทูตที่ได้ถูกกล่าวล่วงหน้าไว้ในคัมภีร์ของพวกเขา แต่ลูกหลานของอิสราเอลกลับปฏิเสธอย่างเอาเป็นเอาตาย
เหตุผลที่พวกลูกหลานอิสราเอลปฏิเสธนบีมุฮัมมัดก็เพราะความรู้สึกทะนงอย่างผิดๆว่าพวกตนเป็นเผ่าพันธุ์ที่พระเจ้าคัดเลือกให้เหนือกว่าชนชาติอื่นๆและบรรพบุรุษของตนก่อนหน้านี้เคยเป็นนบีหลายคน นบีบางคนยังได้รับคัมภีร์จากพระเจ้า ดังนั้น ถ้าจะมีนบีที่พวกตนรอคอยเกิดขึ้น นบีคนนั้นต้องเป็นคนในเผ่าพันธุ์อิสราเอล ไม่ใช่ชนชาติอาหรับที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่รู้หนังสือโดยเฉพาะนบีมุฮัมมัด
ด้วยสาเหตุดังกล่าวนี้เองที่พระเจ้าจึงประทานเรื่องราวการสร้างอาดัมมาให้นบีมุฮัมมัดอ่านให้พวกลูกหลานอิสราเอลฟังเพื่อเป็นหลักฐานและสัญญาณยืนยันว่านบีมุฮัมมัดถูกพระเจ้าส่งมาจริงๆ มิเช่นนั้นแล้ว นบีมุฮัมมัดจะรู้เรื่องการสร้างอาดัมที่มีกล่าวไว้ในคัมภีร์ก่อนหน้านี้ได้อย่างไร
แต่ที่สำคัญคือเรื่องราวการสร้างอาดัมต้องการที่จะสั่งสอนพวกลูกหลานอิสราเอลว่ามนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะชนชาติ เผ่าพันธุ์หรือสีผิวใดล้วนเป็นลูกหลานของอาดัมและอาดัมถูกสร้างมาจากดิน ถ้ามนุษย์คนใดถือว่าตัวเองมีต้นกำเนิดทางเผ่าพันธุ์ที่สูงกว่า คนผู้นั้นก็มีทัศนคติไม่ต่างอะไรไปจากอิบลีสตัวแทนของซาตานที่ทะนงในต้นกำเนิดของตัวเองจนโอหังฝ่าฝืนคำสั่งของพระเจ้าและจะถูกสาปแช่งไปถึงวันสิ้นโลก
- สิทธิของผู้หญิงในอิสลาม
- ศรัทธากับชีวิตคู่
- เหตุการณ์ยึดกะบะห์-ผู้อ้างตนเป็นอีหม่ามมะห์ดี
- ถือศีลอดมิใช่แค่อดข้าวอดน้ำ
- อย่าให้ขี้จิ้งจกตกในแก้วน้ำที่ต้องดื่ม
- ศาสนามาพร้อมกับมนุษย์
- คัมภีร์กุรอาน แผนที่บอกทางสู่ความสำเร็จของนบีมุฮัมมัด
- ถึงร้อยพันศาสดา ก็ศาสนาเดียวกัน
- รู้วิทยาศาสตร์ แต่..อย่าขาดความเชื่อในศาสนา