ยี่สิบกว่าปีของการได้รับใช้ใกล้ชิด พระมหากรุณาธิคุณที่ทำให้ผมภูมิใจมากที่สุดซึ่งเป็นรูปธรรมมาถึงปัจจุบันคือ การเสด็จไปเยี่ยมมัสยิดกลางปัตตานี
ประจักษ์พยานแห่งรัก มัสยิดกลางปัตตานี
ครูธีรพจน์ หะยีอาแว ล่ามประจำพระองค์ หนึ่งพสกนิกรมุสลิมในแผ่นดินไทย เผยเรื่องราวจากส่วนลึกของหัวใจ ความรู้สึกซาบซึ้งและสุขใจยิ่งที่ได้เป็นพสกนิกรไทยใต้ร่มพระบารมี ในหลวง รัชกาลที่9
“ยี่สิบกว่าปีของการได้รับใช้ใกล้ชิด พระมหากรุณาธิคุณที่ทำให้ผมภูมิใจมากที่สุดซึ่งเป็นรูปธรรมมาถึงปัจจุบันคือ การเสด็จไปเยี่ยมมัสยิดกลางปัตตานี ครั้งนั้นผมได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลเชิญเสด็จซึ่งทางสำนักพระราชวังได้ตอบกลับมาว่าได้กราบบังคมทูลแล้ วแต่ไม่ทราบว่าจะเสด็จหรือไม่ ในวันที่เสด็จแปรพระราชฐาน ระหว่างรอรับเสด็จที่สนามบินบ้านทอน ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้ที่มารับจนกระทั่งเสด็จฯ มาถึงเบื้องหน้าผม ทรงตรัสว่า “ที่เชิญมาน่ะ เราจะไปนะครู” ผมขนลุกซู่ทั้งดีใจทั้งตื้นตันใจ และเมื่อประทับอยู่ในมัสยิดทรงตรัสว่า “มัสยิดนี้สวยงามมาก แต่เริ่มจะคับแคบแล้ว น่าจะได้มีการขยับขยายให้กว้างขึ้นและให้คงรูปแบบนี้ไว้” ไม่นานมัสยิดแห่งนี้ก็ได้รับการต่อเติมเด่นตระหง่านสง่างามกลางเมืองปัตตานี
ซึ่งนอกจากจะเป็นประจักษ์พยานในน้ำพระทัยที่รักและห่วงใยประชาชนแล้ว ภาพทีทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้นำศาสนาบริเวณมัสยิดยังแพร่กระจายแสดงให้ชาวโลกได้เห็นว่าพระองค์ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง”
จากหนังสือ"สถาบันพระมหากษัตริย์กับมุสลิมในแผ่นดินไทย"โดย ศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย